ทายนิสัยจากเวลาเกิด
คนที่เกิดเวลาตี 5 ถึง 7 โมงเช้า ช่วงเวลานี้เป็นเวลากระต่าย จะทำให้คุณเป็นคนรักสวยรักงาม ทำอะไรละเอียดอ่อน สะอาดสะอ้านชอบแต่งตัวให้ดูดีเสมอ
ด้านบุคลิก
คุณจะค่อนข้างสุภาพดูอ่อนโยนพูดจาหวานและนอบน้อมถ่อมตัว มีมารยาทเป็นเลิศ ดูแล้วผู้ดี๊ผู้ดี สงบ เงียบ เรียบร้อย เป็นผู้ใหญ่
ด้านนิสัย
แม้ จะดูเงียบนุ่มปานนั้น ลึก ๆมั่นใจและทะเยอทะยานไม่น้อย เป็นคนเข้ม แข็งข้างใน รู้จักระมัดระวังรอบคอบ เป็นนักการทูต จิตวิทยาสูง มีความเข้าอกเข้าใจคนอื่นดี ใจกว้าง โกรธง่ายหายไว จิตใจดี ใจอ่อน ชอบทำบุญ ชอบช่วยเหลือ รสนิยมดี
คนที่เกิดเวลา 7 โมงเช้าถึง 9 โมงเช้า เวลานี้เป็นเวลามังกร
ด้านบุคลิก
คุณจะดูหยิ่งทะนงมาก ท่าทางสง่าผ่าเผย ดูหัวสูง ติดหรู ความทะเยอทะยานจะเห็นได้ชัด คุณดูน่าเกรงใจ เข้าถึงยาก มีความเป็นผู้นำสูง
ด้านนิสัย
คุณ จริง ๆ แล้วเป็นคนใจกว้างและเด็ดเดี่ยว รักศักดิ์ศรี โมโหร้าย บุ่มบ่าม มุทะลุ ทำอะไรต้องตรงไปตรงมา ไม่ชอบเรื่องเล่ห์เหลี่ยม ในด้านดีอยู่ที่เป็นหลักพึ่งพิงได้ รับผิด ชอบสูงและขี้สงสาร เป็นคนที่มีประสิทธิภาพสูงทีเดียวนะอนาคตของคุณค่อนข้างแจ่มแจ๋วด้วยความ มุ่งมั่นบากบั่นของคุณนั่น แหละ
ผู้ที่เกิดเวลา 9 โมงเช้าถึง 11 โมงเช้า คนที่เกิดสาย ๆ เวลานี้ซึ่งเป็นเวลางู โดยมากจะหน้าตาดี แต่งตัวดีเสมอด้วยของหรูหราราคาแพงหรือมียี่ห้อภาพพจน์ของคุณต้อง มาก่อนเสมอ
ด้านบุคลิก
คุณดูเงียบขรึม เรียบร้อยสุภาพนุ่มนวล มารยาทดี พูดจาหวานหู
ด้านนิสัย
ค่อน ข้างฉลาดเก็บความรู้สึกและความต้องการได้นิ่งลึกมาก คุณรักการแข่งขันชิงดีชิงเด่น มีความทะเยอทะยานสูง ชอบทำตัวเด่น อยากมีชื่อเสียง เป็นนักวางแผนผู้ชาญฉลาดใจแข็งไม่หวั่นไหวอ่อนข้อให้ใครง่าย ๆ ถ้าจะล้วงความลับจากตัวคุณคง ไม่ง่ายนักหรอก
ผู้ที่เกิดเวลา 11 โมงเช้าถึงบ่ายโมง เวลาเกิดช่วงนี้เป็นเวลาม้า
ด้านบุคลิก
แข็ง แรงอดทน ร่าเริงคึกคัก ชอบสนุกสนานเรื่องตลกโปกฮาล่ะ ชอบนัก ความที่รักอิสระเสรีกับการเป็นนักผจญภัย ถือเป็นจุดเด่นในตัวคุณ มีความเป็นตัวของตัวเอง ชอแหก กฎ
ด้านนิสัย
คุณ เป็นคนใจกว้าง กระตือรือร้นมากแต่รอบคอบไม่เป็น ใจร้อนชอบทำก่อนคิด กล้าลุยไปข้างหน้า จิตใจเข้มแข็ง มานะบากบั่น มีความจริงใจสูง รักเพื่อนและครอบครัว เวลา มีทิฐิจะเป็นคนหัวแข็ง ดื้อรั้นสุด ๆ เวลาน่ารักจะมีชีวิตชีวาน่าตื่นเต้น เจอมรสุมก็ยังลุกขึ้นสู้ได้
ผู้ที่เกิดเวลาบ่ายโมงถึงบ่าย 3 โมง คุณที่เกิดเวลานี้เป็นเวลาแพะ จะเป็นคนใจดีอ่อนโยนจนถึงขั้นขลาดเขิน
ด้านบุคลิก
คุณจะสุภาพอ่อนโยน นุ่มนวล มีมารยาท ดูสุขุมใจเย็น ไม่มีพิษไม่มีภัย ขี้อายแต่มีความคิดสร้างสรรค์ ช่างฝัน มีไอเดียมัน ๆ
ด้านนิสัย
จิต ใจดีทำร้ายใครไม่เป็นถ้าถูกรังแกจะสู้ยิบตา มีความมั่นใจซ่อนไว้ใต้ท่าทางอ่อนโลกติ๋ม ๆ คุณเป็นคนซื่อตรงรักสงบ เกลียดความรุนแรง อะไร ๆ ก็ดีหมด ยกเว้นเรื่องดื้อรั้น ของคุณ ครองแชมป์ตลอดกาลเลย
ผู้ที่เกิดเวลาบ่าย 3 โมงถึง 5 โมงเย็น คุณที่เกิดเวลาบ่ายๆซึ่งเป็นเวลาของลิง จะมีอิทธิพลทำให้คุณค่อนข้างแอ็กทีฟไม่อยู่เฉย
ด้านบุคลิก
คุณดูเปิดเผย ใจร้อน และซุ่มซ่ามนิสัยของคุณเหมือนเด็ก ๆ ชอบเล่นพิสดาร
ด้านนิสัย
คุณ เป็นคนฉลาดหัวไว มีไหวพริบกล้าพูดกล้าทำ ตรงไปตรงมา เป็นนักวางแผนและรู้จักเอาตัวรอด มีเล่ห์กลแต่ไม่ทำร้ายใครลับหลัง มีความสามารถรอบตัว ปรับตัวเข้ากับคน ได้ทุกระดับ ทุ่มเทกับการงานมาก งานดีเชื่อมือได้ เสน่ห์ในตัวอยู่ที่ความขี้เล่นมีชีวิตชีวาเฮฮา
ผู้ที่เกิดเวลา 5 โมงเย็นถึง 1 ทุ่ม ช่วงหัวค่ำเป็นเวลาไก่ ส่งผลให้คุณเป็นคนเข้มแข็ง หยิ่งยโส หัวรุนแรง ขวางโลก และหัวโบราณ
ด้านบุคลิก
คุณเป็นคนที่ชอบแต่งตัว ใช้แต่ของดีมีราคา ขี้อวดไม่ใช่เล่นว่าฉันเนี่ยรสนิยมดีนะ
ด้านนิสัย
ใน ส่วนลึกของจิตใจคุณเป็นนักอนุรักษ์นิยม เจ้าระเบียบ จู้จี้ ขี้บ่นเก่ง หงุดหงิดง่ายดาย ไม่ยอมเสียเงินแบบไร้ค่า ยกเว้นเรื่องภาพพจน์ล่ะก็โอ.เค. คุณมีหัวในการบริหาร ควบคุม มีความเด็ดขาดละเอียดถี่ถ้วน ต่อสู้กับอุปสรรคไม่มีถอย
ผู้ที่เกิดเวลา 1 ทุ่มถึง 3 ทุ่ม คุณทีเกิดช่วงเวลานี้เป็นเวลาของหมา
ด้านบุคลิก
คุณ เป็นคนรักคุณธรรม ความถูกต้องซื้อสัตย์จริงใจมาก จนถึงขั้นยึดมั่น ถือมั่นทีเดียว ยืดหยุ่นไม่ค่อยเป็น คิดและทำอะไรก็ตามตรงทื่อไปหมด ไม่กล้าแหกกฎระบบระเบียบ จนเกินไป ชีวิตถึงไม่ค่อยมีอะไรแปลกใหม่ บางครั้งจึงดูน่าเบื่อและแสนเซ็ง มีความขยัน ฉลาด แต่พลิกแพลงไม่เป็น เอาตัวไม่ค่อยรอด
ด้านนิสัย
คุณเกิดมา เป็นนักปกป้องคุ้มครองคนอื่นมองโลกแบบตรงไปตรงมา ไม่เพ้อฝัน ขาดอารมณ์โรมานซ์ แต่ก็เป็นคนตลกจี้เส้น เพราะมองโลกในแง่ดี เรื่องเสียสละเพื่อคนอื่น แม้ คุณจะซื่อไปนิดเซ็งไปหน่อยแต่จริง ใจไม่มีใครเทียบได้เลย
ผู้ที่เกิดเวลา 3 ทุ่มถึง 5 ทุ่ม คุณที่เกิดเวลาหมู อันเป็นช่วงเวลาแห่งการพักผ่อน ทำให้คุณขี้เกียจนิด ๆ เฉื่อยหน่อย ๆ คุณรักความเรียบง่ายไม่มากเรื่อง สุภาพอ่อนโยน ใจดี และอบอุ่น
ด้านบุคลิก
คุณออกจะนุ่มๆ คุณมีจิตใจดี จริงใจ มีอารมณ์สุนทรีย์ รักดนตรี ศิลปะสวยงาม มีความโรมานซ์ในหัวใจ แม้จะพูดน้อย แต่เอาอกเอาใจเป็นเลิศ คุณชอบแต่งตัวแบบผู้ดี๊ผู้ดี รสนิยมดี ชอบทำอาหารและ ชอบกินด้วย รูปร่างจึงออกจะแข็งแรงและสมบูรณ์
ด้านนิสัย
คุณ เป็นคนใจกว้างและชอบให้อภัย หากถูกทำร้ายจะกลายเป็นหมูป่า สู้ถวายชีวิต ความคิดและการกระทำจะเป็นแบบค่อยๆเป็นค่อย ๆ ไป รอบคอบใจเย็นจนกว่าจะมั่นใจนั่นแหล่ะถึงจะลุย ไม่ว่าคุณจะหญิงหรือชาย คุณจะเป็นแม่บ้านพ่อเรือน และรักครอบครัวมาก
ผู้ที่เกิดเวลา 5 ทุ่มถึงตี 1 เป็นเวลาของหนู คุณชอบกระตือรือร้น ร่าเริงปราดเปรียวสดใส แต่มีความระแวดระวัง ฉลาดหัวไว ไหวพริบดี ตรงไปตรงมาไม่มีเล่ห์เหลี่ยม
ด้านบุคลิก
ท่า ทางดูขรึม พูดน้อย เฉยชาแต่มีมารยาท รักเพื่อน จุดเด่นคือความขยัน และสะสมเก่งคุณมักมีเงินสำรองช่อนไว้ไม่มีใครรู้หรอก ชอบวางแผนการเงิน ประหยัดไม่ฟุ่มเฟือย เป็นคนมีระเบียบ บากบั่นมุ่งมั่นสูง ปรับตัวเก่ง
ด้านนิสัย
มักมีความรักแบบผู้ให้ รักบ้านรักครอบครัว ชอบช่วยเหลือและมีน้ำใจ แต่ก็รักอิสระ ไม่อยากถูกผูกมัด กว่าจะลงเอยกับใครสักคน
ผู้ที่เกิดเวลาตี 1 ถึงตี 3 เวลานี้เป็นเวลาของวัว ทำให้คุณทำอะไรช้ากว่าชาวบ้าน
ด้านบุคลิก
ท่า ทางแข็งแรงบึกบึน และอึดเป็นบ้าเลย เป็นคนเฉื่อย แบบใจเย็น ๆ โกรธยากแต่โกรธทีเหมือนระเบิดลง ข้อดีอยู่ที่มีความบากบั่นมีระเบียบ ขยันอดทนหนักแน่น
ด้านนิสัย
ทำอะไรตรง ไปตรงมา ไม่รู้จักปรับตัว ไม่มีเล่ห์เพทุบายกับใครเค้าหรอก คุณน่ะทื่อตรง จนไม่ค่อยทันใคร ขาดอารมณ์ขัน ตลกก็ตลกแบบฝืดๆ โดยปกติเป็นคนอดทนมาก ไม่ ชอบความรุนแรง การทะเลาะวิวาท เลี่ยงได้จะเลี่ยง
ผู้ที่เกิดเวลาตี 3 ถึงตี 5 คุณที่เกิดเวลานี้จะเป็นคนดวงแข็ง เพราะนี่เป็นเวลาเสือ ส่งผลให้คุณหุนหันพลันแล่น ก้าวร้าวเข้มแข็งและดูมีอำนาจ คุณมีจิตใจที่กล้าหาญเด็ด เดี่ยว
ด้านบุคลิก
มั่น ใจในตัวเองสูง แต่ขาดความรอบคอบ เพราะอารมณ์อยู่เหนือหัวใจ แต่ก็เป็นคนใจดี ชอบเสียสละ ใจกว้างไม่จุกจิกกับเรื่องเล็ก ๆ น้อยๆ มีความรับผิดชอบ ชอบฉายเดี่ยว ไม่อยู่ติดที่
ด้านนิสัย
คุณ มักจะมองโลกในแง่ดี มีอารมณ์ขัน ขี้โม้โอ้อวด หลงใหลเรื่องรักใคร่โรแมนติก ชอบเผลอปล่อยตัวปล่อยใจไปชั่ววูบ มีความเซ็กซี่เป็นเสน่ห์ ส่วนตัวที่น่าดึงดูดใจ
ดูดวงตามวันเกิด ชายและหญิง หมอดูแม่นๆ
ดเด่น-จุดด้อยของ 12 ราศี
มีจุดเด่น-จุดด้อยของ 12 ราศีมาฝากจ้ะ มาเริ่มกันที่ราศีแรกเลย.......
จุดแข็ง-จุดอ่อน ของ 12 ราศี
ราศีมังกร (22 ธันวาคม - 19 มกราคม)
จุดเด่น
1. อ่านคนเก่ง มีลางสังหรณ์แม่นยำ
2. วางตัวดี ยากที่ใครอ่านออก
3. มีอารมณ์ขัน มีวาทศิลป์
4. มีความนอบน้อมถ่อมตน เคารพผู้อาวุโส
5. มีความซื่อตรงและยุติธรรม
6. รอบคอบ ละเอียดอ่อน
7. ใจบุญสุนทาน มีความรอบรู้ รักพ่อแม่พี่น้องมาก
8. เข้มแข็งแกร่งกล้า แม้จะเป็นคนอ่อนไหวง่าย
จุดด้อย
1. เจ็บปวดง่าย ยากจะลืมเลือนหรือให้อภัยคนที่ทำร้ายตน
2. ชอบผูกมิตรกับคนแต่ไม่ชอบคบใครจริงจัง
3. ชอบแสดงความสดใสร่าเริง ทั้งที่ในใจรู้สึกโดดเดี่ยว
4. ทนไม่ได้กับการวิพากษ์วิจารณ์หรือการดูถูก
5. ยึดมั่นในหน้าที่ จนไม่มีเวลาใช้ชีวิตแบบที่ปรารถนา
6. ใช้จ่ายเงินเก่ง
7. เชื่อว่าตนเองถูกเสมอ
ราศีกุมภ์ (20 มกราคม - 18 กุมภาพันธ์)
จุดเด่น
1. มีความเป็นเพื่อนให้ทุกคนอย่างไม่เลือก
2. ตั้งเป้าหมายอย่างชัดเจน มีจุดยืนที่มั่นคง
3. ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ไม่เคยดับมอด
4. เด็ดเดี่ยว ไม่ท้อแท้
5. กล้าได้กล้าเสีย แก้ปัญหาเก่ง ไม่ตื่นตกใจง่าย
6. รู้จักกาลเทศะ
7. สร้างจุดสนใจได้ดีเสมอ สร้างความประทับใจให้กับทุกคน
8. สุขุมเยือกเย็น ไม่เคยทำอะไรสะเพร่า
จุดด้อย
1. ต่อต้านกฎเกณฑ์อย่างจริงจัง จนบางครั้งก้าวร้าว
2. ไม่ลงให้ใครง่ายๆ
3. ไม่แสดงความคิดเห็นของตน แต่เก็บเกี่ยวความคิดของผู้อื่น
4. ชอบเสี่ยง ทั้งที่ไม่มีความมั่นใจเลย
5. ไม่ทนกับคนที่ตนคิดว่าไรสาระ
6. ไม่ชอบแสดงออกทางอารมณ์ แม้แต่จะทำสิ่งที่ดีๆให้กับคนที่ตนรัก
7. คาดหวังสูงกับความเป็นคนมีเสน่ห์และเป็นที่ยอมรับของคนรอบข้าง
8. ชอบคิด ชอบวางแผน แต่ไม่ชอบลงมือทำ
ราศีมีน (19 กุมภาพันธ์ - 20 มีนาคม)
จุดเด่น
1. สามารถดึงเอาความเพ้อฝันมาใช้สร้างสรรค์ได้
2. ปรับตัวได้ดี รู้จักรอมชอม แม้จะฝืนใจตนเองบ้าง
3. วางตัวดี รู้จักพูดจา เป็นผู้ฟังที่ดี
4. ยินดีให้ความร่วมมือกับผู้อื่นแม้จะไม่เห็นชอบด้วยก็ตาม
5. ไม่เรียกร้องความโดดเด่น ไม่ยึดติดว่าตนต้องเป็นผู้นำ
6. มีความอดทน มีศักยภาพที่ไขว้คว้าความสำเร็จ
7. ฉลาดและรู้จักใช้โอกาส
จุดด้อย
1. อารมณ์เปราะบาง
2. สับสนและเครียดได้สูงเพียงเพราะอารมณ์อ่อนไหวของตน
3. ไม่กล้าทำในสิ่งที่ลึกๆ ปรารถนา
4. ชอบหลอกตัวเองไม่ยอมรับความจริง
5. พอใจที่จะอยู่ในโลกแห่งจินตนาการมากกว่าโลก แห่งความจริง
6. ชอบหนีปัญหาของตนเอง ทั้งที่สามารถให้คำแนะนำในการแก้ปัญหาของผู้อื่นได้
7. ไม่ชอบงานหนักหรือภาวะที่บังคับให้ต้องรับผิดชอบสูง
8. ขาดมุ่งมั่นเอาจริงเอาจังกับชีวิต
ราศีเมษ (21 มีนาคม - 19 เมษายน)
จุดเด่น
1. มีกำลังใจเข้มแข็ง ไม่ท้อถอยง่ายๆ
2. มีน้ำใจไมตรีต่อคนรอบข้าง
3. รู้จักสร้างความสดชื่นรื่นรมย์อยู่เสมอ
4. เป็นผู้นำที่ดี มีความยุติธรรมและซื่อตรงสูง
5. มีความคิดริเริ่มรักอิสระ
6. วางจุดหมายของตัวเองไว้ทุกระยะ
7. สนใจใฝ่รู้ มุ่งไปที่ความสำเร็จมากกว่าเงิน
8. กล้าสู้ปัญหา ยอมรับความกดดันได้ดี
จุดด้อย
1. เชื่อแต่ความคิดและมุมมองของตนเอง
2. หลงตนเองต้องการเป็นหนึ่งเสมอ
3. อยากควบคุมความคิดคนอื่น เผด็จการพอตัว
4. บางครั้งก้าวร้าวและไม่ใคร่ตรองให้ลึกซึ้ง
5. อ่านคนไม่เก่ง แต่ชอบแข่งขันและชอบเอาชนะ
6. กลัวคนไม่ยอมรับ
7. เก็บเงินไม่เก่ง
8. ไม่ค่อยอดทนไม่ชอบอยู่กับความซ้ำซากเป็นเวลานาน
ราศีพฤษภ (20 เมษายน - 20 พฤษภาคม)
จุดเด่น
1. มีความบากบั่นสูง ยากที่จะยอมแพ้หรือเปลี่ยนแปลงจุดยืนของตนเอง
2. เป็นคนมีจิตใจดี ให้เกียรติให้ความสำคัญแก่คนอื่นเสมอ
3. เป็นคนจริงใจ รักมั่นคง รักครอบครัวรักเพื่อน อย่างแท้จริง
4. สามารถเก็บความรู้สึกเกรี้ยวกราดไว้ได้ ยากที่จะแสดงออกว่าไม่พอใจใคร
5. สามารถจัดการชีวิตให้มีระเบียบวินัยอย่างพอเหมาะ
6. เป็นคนมีเหตุผล พูดจริง ทำจริง และไม่ไขว่คว้าในสิ่งที่เกินตัว
7. มักไตร่ตรองให้รอบครอบอยู่เสมอ
8. เป็นคนสุภาพนอบน้อม ไม่ใจร้อนวู่วาม
จุดด้อย
1. คิดและทำอะไรช้า
2. อยากทำตามความคิดตนมากกว่าจะเปลี่ยนแปลงเพราะฟังคนอื่น
3. โกธรได้ง่าย แต่หายยาก
4. ยอมทุ่มเทเงินทองให้กับสิ่งที่ชอบ
5. เจ้าระเบีย บ ไม่ชอบให้ใครยุ่งกับคนของตน
6. ไม่ชอบที่จะให้เพื่อนพ้อง พี่น้องชื่นชมใครไปกว่าตน
ราศีเมถุน (21 พฤษภาคม - 20 มิถุนายน)
จุดเด่น
1. มีความสดใสร่าเริง และมีอารมณ์ขันเสมอ
2. ช่างคิด ช่างสังเกต
3. ฉลาด คิดเร็วตัดสินใจเร็ว และไม่ชอบหยุดนิ่ง
4. ไหวพริบดี สามารถแก้ปัญหาได้ด้วยตนเอง
5. มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์มีความสามารถในการวางแผน
6. รักการเรียนรู้ สนุกที่จะหาประสบการณ์ ไม่กลัวการเปลี่ยนแปลง
7. สามารถให้ความช่วยเหลือ คำปรึกษา คำแนะนำแก่คนรอบข้างได้
8. เก็บความรู้สึกดี มักไม่แสดงความรู้สึกโกรธออกมา
จุดด้อย
1. ขาดความมุ่งมั่นและไม่อดทน ไม่มีความหนักแน่น
2. ไม่ค่อยเข้าใจความรู้สึกที่แท้จริงของตน
3. เป็นคนเบื่อง่าย ขาดความจริงจังทั้งที่เป็นคนมีความทะยาน
4. แม้จะเป็นคนคิดการณ์ไกล แต่ไม่ชอบที่จะทำ มักวางมือเสียง่ายๆ
5. กล้าคิด กล้าทำแต่จริงๆ แล้วขาดความรอบครอบ
6. ไม่ตรงต่อเวลานัก ไม่ต้องการความรับผิดชอบสูง
7. ขาดพลังในการควบคุมตน
(21 มิถุนายน - 22 กรกฎาคม)
จุดเด่น
1. เป็นคนมีจิตใจดี ไม่เคยคิดเบียดเบียนทำร้ายใคร
2. สนใจเรื่องแสวงหาความมั่นคงในชีวิตความสำเร็จและความก้าวหน้ามากกว่าปล่อยชีวิตไปเรื่ื่อยๆ
3. รักบ้าน รักครอบครัว รักเพื่อน
4. มีความจำดี มีความรับผิดชอบสูง
5. ขยันขันแข็ง ไม่เหลวไหล
6. ยอมรับระบบระเบียบและกฎเกณฑ์ที่ถูกต้อง
7. ยืนหยัดตามลำพังได้ด้วยตัวของตัวเองหากต้องเผชิญกับปัญหา
8. มีความละเมียดละไม ใฝ่หาความสุนทรีในชีวิต
จุดด้อย
1. อ่อนไหวเกินไป เจ็บปวดง่าย เจ้าอารมณ์
2. ขาดเหตุผลเข้มงวดกับคนใกล้ตัวเกินไป
3. ช่างหวาดระแวงและวิตกกังวลเกินควร
4. บางครั้งก้าวร้าวเพราะยึดมั่นในความคิดของตนเกินไป
5. ควบคุมอารมณ์ไม่ได ้ทั้งที่ไม่คิดจะทำร้ายใครเลย
6. ไม่มีความกล้าได้กล้าเสี่ยงเท่าใด
7. มักมองโลกในแง่ร้ายและตัดสินใจเรื่องราวในแง่ลบเสมอ
ราศีสิงห์ (23 กรกฎาคม - 22 สิงหาคม)
จุดเด่น
1. เป็นคนใจกว้างและมีน้ำใจ
2. ไม่ดึงตัวเองลงไปในความเครียด รู้จักสร้างความรื่นรมย์ให้ตนเองและคนรอบข้าง
3. เป็นคนที่มีระเบียบในการใช้ชีวิต
4. มีความทะเยอทะยานมีเป้าหมายในชีวิตที่ชัดเจน
5. มีความมั่นอกมั่นใจและเป็นตัวเองสูง
6. มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ กล้าพูดกล้าทำ กล้าเสี่ยง
7. ไม่หวาดกลัวต่อการเปลี่ยนแปลง
8. ไม่ยอมล้มเหลวหรือพ่ายแพ้
จุดด้อย
1. บางครั้งทรนงจนไม่ยอมขอโทษ ทั้งที่ตัวเองเป็นฝ่ายผิด
2. ชอบให้ทุกคนยกย่อง เอาอกเอาใจ ต้องการการยอมรับมากไป
3. ให้ความสำคัญกับการเที่ยวเตร่มากกว่าการมุ่งมั่นเอาจริงเอาจัง
4. การเลือกคบคมมากเกินไปจนดูเหมือนดูถูกคนที่ต้อยต่ำกว่า
5. ชอบโอ้อวดและหน้าใหญ่ในบางครั้ง
6. วู่วามใจร้อนไร้เหตุผล
7. มักเห็นแก่ความต้องการของตนเป็นใหญ่เสมอ
8. กล้าคิดกล้าตัดสินใจแต่ขาดความรอบครอบ
ราศีกันย์ (23 สิงหาคม - 22 กันยายน)
จุดเด่น
1. ซื่อสัตย์ภักดี มีความตั้งใจจริงไม่เอาเปรียบใคร
2. มีความรับผิดชอบสูง ความตั้งใจสูง
3. ยินดีช่วยเหลือผู้อื่น รู้จักออมเงิน
4. เก่งกาจในการติดต่อสื่อสาร การคิด การวิเคราะห์และการเก็บรายละเอียด
5. สามารถปรับตัวได้ไม่เบื่อหน่ายมีความอดทนสูง
6. เก่งด้านการจัดการ มีมาตรฐานในชีวิต
7. มีความทะเยอทะยานมีเป้าหมายในชีวิตชัดเจน
จุดด้อย
1. ไม่เชื่อถือและไม่วางใจใครเหมือนกับที่คนอื่นวางใจตน
2. เข้มงวด เจ้าระเบียบ จุกจิกจู้จี้
3. มีความบากบั่นสูงแต่บางครั้งก็ดันทุรังโดยไร้เหตุผล
4. ด้วยความสามารถในเชิงวิพากษ์วิจารณ์ ทำให้บ่อยคร ั้งช่างตำหนิติเตียนผู้คน
5. มักมีลับลมคมนัยเก็บความรู้สึกและความคิดที่แท้จริงของตนไว้ไม่แสดงออกมา
6. มักหวังสิ่งตอบแทนไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
7. เป็นคนเอาใจยาก
ราศีตุลย์ (23 กันยายน - 22 ตุลาคม)
จุดเด่น
1. มีมาตรฐานในการใช้ชีวิตของตนเอง รู้จักวางเป้าหมายและวางแผนอยุ่เสมอ
2. ดูแลชีวิตตนเองให้มีความสุขเสมอ
3. มีวาทศิลป์ มีคารมคมคาย รู้จักการเจรจาต่อรองได้เยี่ยม
4. ไม่ทำตัวขวางโลก
5. มีความเป็นผู้นำ
6. อ่อนโยน แคร์ความรู้สึกของผู้อื่น
7. มนุษย์พันธ์ดีเยี่ยม ค่อนข้างซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกตนเอง
จุดด้อย
1. การตัดสินใจไม่เด็ดขาดเพราะมักเกิดการโลเล ไม่มั่นใจในตนเอง
2. ปรารถนาความเป็นหนึ่งมากจนเกินไป บางครั้งอาจผิดหวังและอิจฉาผู้อื่นได้
3. บางครั้งสุขุมเกินไปจนดูเหมือนเป็นคนเฉื่อยช้า
4. ยึดถือความถูกต้องเป็นใหญ่จนไม่ประนีประนอมให้เกิดความยืดหยุ่นบาง
5. มีความอ่อนไหวน้อยใจมากพอๆ กับความยโส
ราศีพิจิก (23 ตุลาคม - 21 พฤษจิกายน)
จุดเด่น
1. เป็นคนมีระเบียบวินัยและวางมาตรฐานให้กับชีวิตของตนอย่างเคร่งครัด
2. ไม่ชอบให้ใครเข้ามาในโลกส่วนตัวของตนเอง
3. มีความทรงจำเยี่ยม มีสมาธิดี มีความรับผิดชอบ
4. มีน้ำใจไมตรี ยินดีช่วยเหลือผู้อื่น ไม่ชอบการประจบ
5. เป็นคมมีไหวพริบ
6. รู้จักใช้เวลาอย่างเป็นประโยชน์ที่สุด
7. มีจุดยืนและเป้าหมายเด่นชัด
จุดด้อย
1. ค่อนข้างเข้มงวดกับตนเองและคนอื่นมากไป
2. บางครั้งดูหมิ่นผู้อื่นอยู่ในใจและยากที่จะไว้ใจใคร
3. โมโหร้าย หวาดระแวง ยากที่จะประนีประนอม
4. แม้จะไม่ทำร้ายใครก่อน แต่ก็มักจะตอบโต้ด้วยการใช้เล่ห์เหลี่ยมชั้นเชิงอย่างจริงจัง
5. สามารถที่จะลืมความอ่อนโยนกลายเป็นคนก้าวร้าวได้ถ้าไม่พอใจ
ราศีธนู (22 พฤศจิกายน - 21 ธันวาคม)
จุดเด่น
1. มีแนวคิดที่ชัดเจน มีหลักปรัชญาในการดูแลชีวิต
2. มีอารมณ์ขันเสมอ ไม่เครียดง่าย
3. ปรับตัวได้ดีมองการณ์ไกล
4. กล้าเผชิญกับสิ่งแปลกใหม่เสมอ
5. เข้าใจและเห็นใจผู้อื่น
6. ตรงไปตรงมาไม่มีเล่ห์เหลี่ยมชั้นเชิง
จุดด้อย
1. เก่งหลายอย่างแต่ไม่มุ่งมั่นซะอย่าง
2. มักเปรียบเทียบตนกับผู้อื่นจนท้อ
3. ตัดสินใจไม่เด็ดขาด ไม่เก่งเรื่องวางแผน
4. เก็บเงินไม่เก่ง
5.ทนไม่ได้หากถูกมองว่าไม่ชื่อตรง จะก้าวร้าวถ้าไม่ได้ดั่งใจ
6. บางครั้งใจแคบ ไม่รู้จักกาลเทศะ
7. ไว้ใจคนง่าย ชอบโต้คารม ชอบอวดความคิดตน
8. แม้ปัญญาดีแต่ขาดไหวพริบ
ดูคู่สมพงศ์ตามหลักโหราศาสตร์
วิธีการดูคู่สมพงศ์ตามหลักโหราศาสตร์นั้น เราสามารถดูได้ด้วยตัวเราเองว่า คู่ที่เราเลือกมานั้นเป็นคู่
ประเภทไหน เป็นคู่ที่สมพงศ์กันหรือไม่ แล้วหากใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันไปแล้ว จะเป็นอย่างไร และจะมีวิธีเสริม
ดวงเช่นใด จึงจะทำให้ชีวิตคู่สุขสมหวัง แล้วอย่าลืมหมั่นปฎิบัติต่อกันด้วยความรัก ความซื่อสัตย์และจริงใจ
ต่อกัน เพราะทุกสิ่งทุกอย่างจะสมบูรณ์ได้ก็ขึ้นอยู่กับคนสองคนด้วย
ให้ท่านเอาอายุย่างของฝ่ายชายและฝ่ายหญิง นำมารวมกันได้เท่าไรให้คูณด้วย 3 แล้วนำมา
หารด้วย 7 อีกที
ตัวอย่าง
ฝ่ายชายอายุ 41 ปี
ฝ่ายหญิงอายุ 31 ปี
41 + 31 = 72 x 3 = 216 หาร 7 = 30.8 (เศษที่ได้ คือ
หลังจากทำตามสูตรแล้วได้เศษเท่าไร ให้ทำนายดวงชีวิตคู่ของตนเองว่าเป็นเช่นไร
เศษ 0..... ดวงชีวิตคู่ของคุณอยู่ในเกณฑ์สมหวัง แต่ให้ระวังปัญหาด้านนิสัยส่วนตัวของทั้งคู่ เพราะจะ
ทำให้เกิดการแตกแยกขึ้น
วิธีเสริมดวง ให้ทำบุญตักบาตรร่วมกันในวันเกิดของทั้งคู่ แล้วจะทำให้ชีวิตรักของคุณทั้งคู่สุขสมหวัง
เศษ 1..... ดวงความรักของคุณทั้งคู่ราบรื่นดี แต่หากมีการจัดงานแต่งงานขึ้น งานแต่งงานจะล้มหรือ
พังลงเพราะบุคคลที่ 3 จะไม่พอใจและเป็นทุกข์
วิธีเสริมดวง ให้ทำบุญด้วยการปล่อยหอยขม และเมื่อปล่อยมันแล้วก็ต้องไม่กินมันด้วย เพราะเชื่อว่าหาก
ปล่อยหอยขมจะช่วยให้ชีวิตที่ขมขื่นลอยไปกับสายน้ำ และชีวิตคู่จะราบรื่นไปด้วยดี
เศษ 2..... ดวงชีวิตคู่ของคุณเป็นดวงร่วมทุกข์ร่วมสุข หรือเป็นดวงที่กำลังลองใจกันอยู่
วิธีเสริมดวง ให้ถวายพระพุทธรูปหน้าตักกว้าง 5 นิ้วขึ้นไป จะช่วยให้ชีวิตคู่ของคุณราบรื่นไปด้วยดี
เศษ 3..... ดวงความรักของคุณทั้งคู่กำลังมีปัญหา เนื่องจากกรรมเก่ากำลังตามมาเพื่อให้คุณชดใช้
ทำอะไรในช่วงนี้ก็จะติดขัดไปหมด
วิธีเสริมดวง ให้นำเทียนคู่ไปถวายที่วัดพร้อมกัน เพื่อช่วยเสริมดวงให้ชีวิตที่กำลังติดขัด มีความราบรื่น
และรุ่งโรจน์สว่างไสวขึ้น
เศษ 4..... ดวงชีวิตคู่ของคุณเป็นดวงรุ่งโรจน์ ร่ำรวย เพราะดวงของคุณทั้งคู่เสริมกัน เป็นคู่บุญกันมา
วิธีเสริมดวง ให้หมั่นทำบุญร่วมกันบ่อยๆ โดยเฉพาะการทำบุญใหญ่ จะช่วยเสริมให้ชีวิตคู่ของคุณดียิ่งๆ
ขึ้นไปอีก
เศษ 5..... ดวงชีวิตคู่ของคุณเป็นดวงอุปถัมภ์กัน เจอกันจากแรงอธิษฐาน ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันด้วยการ
ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
วิธีเสริมดวง ให้หมั่นห่มผ้าพระประธานบ่อยๆ จะทำให้ชีวิตของคุณทั้งคู่ดีขึ้น ทำกิจการใดก็ราบรื่นสำเร็จ
ลุล่วงไปด้วยดี
เศษ 6..... ดวงชีวิตคู่ของคุณเป็นดวงพัดพรากแล้วมาเจอกัน หรือดวงคู่มิตรกัน จะอยู่ด้วยกันอย่าง
เพื่อน
วิธีเสริมดวง ให้หมั่นตักบาตรร่วมกัน ถวายเทียนคู่ ส้มคู่ ด้วยกันในวันเกิด และหมั่นกตัญญูต่อบิดามารดา
จะช่วยเสริมให้ชีวิตคู่ของคุณราบรื่น แลไม่มีเหตุให้ต้องพลัดพรากกันอีก
เศษ 7..... ดวงชีวิตคู่ของคุณทั้งสองคน เป็นดวงที่ขัดกัน ทำอะไรมักไม่ค่อยประสบความสำเร็จ
วิธีเสริมดวง ให้หมั่นถวายเทียนคู่ในวันเกิดพร้อมกัน จะช่วยให้ชีวิตคู่ของคุณดีขึ้น
เศษ 8..... ดวงชีวิตคู่ของคุณทั้งสองคน เป็นดวงเนื้อคู่จากอดีตชาติ เคยสร้างกุศลกรรมร่วมกันมา
ชาตินี้จึงได้กลับมาครองคู่กันอีก
วิธีเสริมดวง ให้หมั่นถวายเทียนคู่ในวันเกิดพร้อมกัน จะช่วยให้ชีวิตรักของคุณทั้งคู่สมบูรณ์ยิ่งๆขึ้นไป
เศษ 9..... ดวงชีวิตคู่ของคุณทั้งสองคนเป็นดวงที่ขัดแย้งกันมาก สาเหตุเกิดจากการใช้วาจาของทั้งคู่
และจะมีบุคคลที่ 3 เข้ามาเกี่ยวข้อง
วิธีเสริมดวง ให้ทั้งคู่ปล่อยปลาร่วมกัน และอธิษฐานขอให้เคราะห์กรรมที่กำลังทำให้คุณสองคนมีปัญหา
กัน ไหลไปพร้อมกับปลาและสายน้ำนั้น และอธิษฐานขอให้ชีวิตรักของคุณสุขสมหวัง ราบรื่นตลอดไป
หัวหน้า กับ ลูกน้อง
|
หัวหน้า
|
|
ลูกน้อง
|
|
|
|
ดูดวงความรัก, ดูดวงรายวัน, ฮวงจุ้ย
คนที่ชอบเลี้ยงหนู คุณเป็นคนที่ฉลาดปราดเปรียว มีไหวพริบดี ขยันขันแข็ง ร่าเริง มองโลกในแง่ดี มีความกระตือรือร้น รักความก้าวหน้า มีความระมัดระวังตัวอยู่ตลอดเวลา ปรับตัวเก่ง และชอบเข้าสังคม ถึงแม้บุคลิกของคุณ จะดูเงียบขรึมก็ตามเหอะ แต่คุณก็ยังรักความอิสระ แม้จะชอบเข้าสังคมยังไงก็ตาม คุณก็ยังเป็นคนตระหนี่ จนถึงขั้นขี้เหนียว
คนที่ชอบเลี้ยงปลา คุณเป็นคนช่างฝัน อ่อนไหว นิสัยแบบไปเรื่อย ๆ ไม่มีความทะเยอทะยาน ไอ้งานประเภทยาก ๆ หนัก ๆ ก็รับไม่ค่อยไหว และโดยปกติ จะเป็นคนที่สุภาพเรียบร้อย มองโลกในแง่ดี แต่ออกจะดูเพ้อฝันไปซักหน่อย เพราะชอบอยู่กับความฝัน มากกว่าความเป็นจริง เป็นประเภทไม่ยอมรับความจริง ไม่ชอบการแข่งขัน หรือเอาชนะใครทั้งสิ้น อาจเป็นเพราะว่าคุณเป็นคนขี้อาย อารมณ์อ่อนไหวง่าย โกรธง่ายแต่ก็หายเร็ว โดยรวม คุณเป็นคนติดดิน ดูเหมือนไม่ค่อยใส่ใจตัวเองสักเท่าไร ถ้าเวลาที่คุณโมโหขึ้นมาล่ะก็.. อะไรก็ฉุดไม่อยู่เชียวนะ คุณจะแสดงความก้าวร้าว โมโหร้าย กัดไม่เลือกหน้า ประชดประชันออกมา ถ้ามีคนมาเห็นเข้าล่ะก็ จะไม่เชื่อเลยว่า คุณเป็นคนคนเดียวกัน
คนที่ชอบเลี้ยงสุนัข คุณเป็นคนมีนิสัยจริงใจ และค่อนข้างที่จะรักเพื่อน เท่านั้นยังไม่พอ ยังรักคุณธรรมอีกด้วย ซื่อสัตย์สุจริต เด็ดเดี่ยวกล้าหาญ ไม่ชอบหนีปัญหา พูดจาตรงไปตรงมา และมีน้ำใจไมตรี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แก่ เด็ก สตรี คนชรา และคนพิการ ถึงขนาดเห็นเป็นไม่ได้ คันไม้คันมือ อยากจะเข้าไปช่วยเหลือทันที อย่างไม่รีรอ แต่ก็ไม่ใช่จะมีแต่ข้อดีหรอกนะ ข้อเสียก็มีถมไป ก็คุณเล่นพูดตรงไปตรงมา จนบางทีดูเหมือนไม่ได้คิดก่อนพูด ไม่ยอมอ่อนข้อให้กับใคร และไอเดียสร้างสรรค์ก็น้อยไปหน่อย หากเวลาที่คุณอารมณ์เสียล่ะก็ จะไม่ยอมพูดยอมจาเหมือนเด็กเก็บกด และที่ร้ายไปกว่านั้น อารมณ์ของคุณแปรปรวน และก็หงุดหงิดง่ายด้วยสิ
คนที่ชอบเลี้ยงกระต่าย คุณเป็นคนที่มีไหวพริบดี เอาตัวรอดได้เก่ง ถึงแม้ภายนอกจะดูอ่อนแอก็ตามเหอะ แต่ภายในของคุณเป็นคนเข้มแข็ง แหลมคม แฝงไปด้วยเล่ห์กลแพรวพราว และคุณเป็นคนละเอียดละออ ทำอะไรปราณีต พลิกแพลงไปเรื่อย แต่ก็ทำอย่างระมัดระวัง บุคลิกของคุณก็มีความทะมัดทะแมง คล่องแคล่ว แฝงไปด้วยความสุภาพ อ่อนโยน และไม่ชอบการปะทะกันซึ่ง ๆ หน้า ใจกว้าง รักสวยรักงาม รสนิยมดี มีพรสวรรค์ทางศิลปะ โรแมนติก แต่ติดคุณหนูไปสักหน่อย รายละเอียดที่กล่าวมาของคุณ มันทำให้คุณ เข้าถึงคนอื่นได้ง่าย รู้จิตรู้ใจไปเสียหมด จนทำให้คนใกล้ตัวคุณ อาจคาดไม่ถึงเลยทีเดียว…
คนที่ชอบเลี้ยงแมว นิสัยของคุณก็แทบจะไม่ต่างกับแมวเลยนะ ขี้อ้อน รักอิสระ มีฝีมือในการทำงานประณีต มากมายไปด้วยรสนิยม ชอบใช้ของแบรนด์เนม ราคาแพง และคุณค่อนข้างจะคิดถึงเรื่องของตัวเองก่อนเสมอ โดยไม่สนใจใยดีคนอื่น ๆ เลย นิสัยเหล่านี้แหล่ะทำให้คุณดูหยิ่งยโส ไม่ยอมใคร จู้จี้จุกจิก และขี้ระแวง ซ้ำร้าย ถ้าคุณอยากได้ผลประโยชน์จากใครล่ะก็ คุณก็จะประจบประแจงเอาให้ได้ พอได้แล้วน่ะเหรอ แม้แต่เงาคุณก็ไม่มีวันได้เห็นหรอก อีกอย่างก็คือ คุณมีความมั่นใจตัวเองค่อนข้างสูง จนโดนเหล่เพื่อน ๆ เป็นประจำ ฟัง ๆ ก็ดูก็เหมือนคุณจะใจร้ายเอาเสียมาก ๆ แต่รู้ไหมว่าถ้าได้ใครได้มาสัมผัสตัวเป็น ๆ ของคุณล่ะก็ พูดเป็นเสียงเดียวกันเลยว่า “คุณก็แมวดี ๆ นี่แหล่ะ
คนที่ชอบเลี้ยงนก คุณเป็นคนที่ชอบความเป็นอิสระ ไม่ชอบผูกมัดกับใคร คล่องแคล่ว ปราดเปรื่อง ไม่ชอบอยู่กับที่เป็นเวลานาน ๆ จนดูเหมือนเป็นคนประเภท ไฮเปอร์ และมีนิสัยขี้อวดเหมือนเด็ก ๆ อีกด้วย แต่คุณจะไม่ค่อยผูกพันกับครอบครัว บางครั้ง คุณน่าเบื่อ เพราะหงุดหงิดง่าย เจ้าอารมณ์ เอาแต่ใจตัวเอง จู้จี้ขี้บ่น เวลาไม่พอใจใครล่ะก็ จะแสดงออกมาอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ดีนะ เพราะมันก็ทำให้คุณดูเป็นคนจริงใจดี…
อ่านดวง จาก ลายมือ |
|
เส้นที่ 1
เส้นที่ 2
เส้นที่ 3
เส้นที่ 4
เส้นที่ 5
เส้นที่ 6
|
ดูดวง เมษายน 2nd, 2009
ความเชื่อเรื่องฤกษ์ยามดีของคนไทย มีมาตั้งแต่สมัยปู่ ย่า ตายาย
ในการจะดำเนินการงานสิ่งใด จะต้องมีการดูฤกษ์ก่อนทุกครั้งไป คำว่า “ฤกษ์” แปลว่า การมองดู การตรวจการพิจารณาดูคราวที่เหมาะ เวลาที่เหมาะ จังหวะที่เหมาะแก่การประกอบการงานที่เป็นมงคลนั้น ๆ หมายความว่า ก่อนที่คนเราจะประกอบการงาน ที่เป็นมงคลอย่างใดอย่างหนึ่ง สมควรจะต้องพินิจพิจารณา เลือกหากำหนดวันเวล าที่เหมาะแก่การประกอบพิธีมงคลนั้นๆ โดยไม่รีบด่วนจนเกินไป จนกระทั่งตระเตรียมอะไรไม่ทัน และโดยไม่ล่าช้าจนเกินไป จนกระทั่งเกิดความเบื่อหน่าย ที่จะเฝ้ารอคอยวันเวลาที่เป็นฤกษ์ดี
ตามพจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2546
ให้คำนิยามไว้ว่า “การกำหนดวัน ยาม ฤกษ์ ราศี ดิถี ของแต่ละปีเป็นธงชัย อธิบดี อุบาทว์ โลกาวินาศ หมายถึง การกำหนดว่า วันไหน ช่วงเวลาใดเป็นเวลาที่ดี และร้ายสำหรับกระทำการมงคลต่าง ๆ การพินิจพิจารณาตรวจดูทางได้ทางเสีย การตรวจดูฤกษ์ การหาฤกษ์ หรือการดูฤกษ์เมื่อพิจารณาดูวัน เวลา สถานที่ บุคคล และสิ่งของเครื่องประกอบการทั้งหลาย โดยถี่ถ้วนว่าไม่มีอะไรขาดตกบกพร่อง ไม่มีอะไรขัดข้อง มีสมบูรณ์ดีทุกประการ อย่างนี้แหละเรียกว่า “ฤกษ์งามยามดี” แต่ถ้าเห็นว่ามีอะไรบางอย่าง หรือหลายอย่างยังไม่พร้อมเรียกว่า “ฤกษ์ยังไม่งาม ยามยังไม่ดี” หรือ “ฤกษ์ไม่ดี”
ระเบียบปฏิบัติการหาฤกษ์งามยามดีแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ
- ฤกษ์งามยามดีทางคดีโลก ในทางคดีโลก
สังคมมนุษย์ส่วนมากนิยมปฏิบัติสืบกันมาว่าวัน เวลาใดประกอบด้วยส่วนดี คือ เป็นเดช เป็นศรี เป็นมูละ เป็นอุตสาหะ เป็นมนตรี เป็นราชาฤกษ์ เป็นเทวีฤกษ์ เป็นมหัทธโนฤกษ์ เป็นต้น ส่วนดีเหล่านี้มีมากที่สุดเท่าที่จะมากได้ และประกอบด้วยส่วนเสีย คือ เป็นอุบาทว์เป็นโลกาวินาศ เป็นกาลกรรณี เป็นอริ เป็นมรณะ เป็นวินาศ เป็นต้น เหล่านี้ให้มีน้อยที่สุด เท่าที่จะหลีกเลี่ยงได้ พร้อมทั้งท่านอาจารย์ผู้ให้ฤกษ์นั้น ก็เป็นผู้ทรงวิทยาคุณทางโหราศาสตร์ มีชื่อเสียงปรากฏเป็นที่ยอมรับนับถือของมหาชนทั่วไปในท้องถิ่นนั้น วันเวลาฤกษ์เช่นนี้แหละ สังคมมนุษย์เรานิยมยอมรับนับถือ เชื่อได้ด้วยความแน่ใจว่า “เป็นฤกษ์งามยามดี” สำหรับประกอบพิธีมงคลนั้น ๆ
- ฤกษ์งามยามดีทางคดีธรรม ในทางคดีธรรม
คือ ตามคำสอนทางพระพุทธศาสนา สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงสอนพุทธบริษัทเรื่องฤกษ์ เรื่องงามยามดีตามความเป็นจริงไว้ในสุปุพพัณหสูตร โดยมีใจความว่า
“คนเราประพฤติกายสุจริต (คือ ไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ลักทรัพย์ ไม่ประพฤติผิดในกาม) ประพฤติวจีสุจริต (คือ ไม่พูดปด ไม่พูดส่อเสียด ไม่พูดหยาบคาย ไม่พูดเพ้อเจ้อเรื่องที่เหลวไหลไร้สาระประโยชน์) ประพฤติมโนสุจริต (คือไม่โลภอยากได้ของเขาในทางทุจริต ไม่พยาบาทปองร้ายเขา ไม่เป็นมิจฉาทิฏฐิเห็นผิดเป็นชอบ) กล่าวคือ กระทำความดีทางกาย ทางวาจา และทางใจ ในเวลาเช้า สาย บ่าย เย็น เวลาค่ำคืน หรือเวลาใดก็ตาม เวลานั้นแหละชื่อว่า “เป็นฤกษ์งามยามดี” สำหรับผู้ทำความดีนั้น”
- รวมความว่า ฤกษ์งามยามดีนั้น ในทางคดีโลกนิยม
ยึดถือวันเวลาที่ดีเป็นสำคัญ ส่วนในทางคดีธรรม คือทางพระพุทธศาสนานิยมยึด ถือการทำความดีเป็นสำคัญ ที่เป็นเหตุทำให้คนเรามีความเจริญรุ่งเรือง
สำหรับในทางโหราศาสตร์ได้กำหนดฤกษ์ไว้ 9 ฤกษ์ ได้แก่
1. ทลิทโทฤกษ์ ได้แก่ฤกษ์ที่ 1,10 และ 19 เรียกว่า ทลิทโทฤกษ์ แปลว่า ผู้มักน้อย ผู้เข็ญใจ ผู้ขอ ผู้ต้องเหน็ดเหนื่อย ผู้อดทน ผู้ที่ต้องรับผิดชอบสูง ฤกษ์นี้เป็นฤกษ์ของ “ชูชก” มีพระอาทิตย์เป็นผู้รักษาฤกษ์ บาทฤกษ์ทั้ง 4 อยู่ในราศีเดียวกันเป็น “บูรณะฤกษ์” ที่เต็มโดยสมบูรณ์ คือฤกษ์ที่ไม่ขาดแยกแตกบาท ฤกษ์ไปอยู่คนละราศี และเรียกว่า จัตตุรฤกษ์ หรือ ขันธฤกษ์ เป็นฤกษ์ที่เหมาะสำหรับ การขอสิ่งต่าง ๆ เพราะถือว่าเป็นฤกษ์ของชูชก จะทำการขอสิ่งใดก็ง่าย เช่น การขอหมั้น ขอแต่งงาน ทวงหนี้ กู้ยืม ร้องทุกข์ การทำการใด ๆ เพื่อให้ผู้อื่นสงสารกรุณา เปิดร้านของชำ ของเก่าชำรุด สมัครงาน ทำการใด ๆ ที่ริเริ่มใหม่
2. มหัทธโนฤกษ์ ได้แก่ ฤกษ์ที่ 2,11 และ 20 เรียกว่า มหัทธโนฤกษ์ แปลว่า คนมั่งมี ผู้รุ่งเรือง เศรษฐี มีพระจันทร์เป็นผู้รักษาฤกษ์ บาทฤกษ์ทั้ง 4 อยู่ในราศีเดียวกันเป็น “บูรณะฤกษ์” เป็นฤกษ์ที่เหมาะสมการขอสิ่ง ต่าง ๆ เช่น ขึ้นบ้านใหม่ แต่งงาน ปลูกสร้างอาคาร ธุรกิจการเงิน การค้าอุตสาหกรรม เปิดห้างร้าน ลาสิกขาบท สะเดาะเคราะห์ และ สารพัดงานมงคล
3. โจโรฤกษ์ ได้แก่ฤกษ์ที่ 3,12 และ 21 เรียกว่า โจโรฤกษ์ แปลว่า โจร ผู้ปล้น ผู้ลักขโมย นักเลง ผู้ใช้กำลัง ผู้กล้าหาญมีอำนาจ ผู้ว่องไว มีพระอังคารเป็นผู้รักษาฤกษ์ ฤกษ์บาททั้ง 4 ไม่รวมอยู่ในราศีเดียวกัน คาบเกี่ยวอยู่ 2 ราศีเป็น “ฉินทฤกษ์” คือ ฤกษ์ขาดแตก โดยเฉพาะบาทแรกของต้นราศีนั้น เป็นฤกษ์บาทที่ร้ายแรงมากกว่าบาทอื่น เป็นนวางค์ที่ร้ายแรงมากไม่ควรให้ฤกษ์มงคล เป็นฤกษ์ที่เหมาะสม คนโบราณใช้ในการปล้นค่าย จู่โจมโดยฉับพลัน ข่มขวัญ บีบบังคับ ทำการปราบปราม การแข่งขันช่วงชิง การแย่งอำนาจ และผลประโยชน์ งานเสี่ยง ๆ ในระยะสั้น ๆ การปฏิวัติ งานของบุคคลในเครื่องแบบใช้กำลัง
4. ภูมิปาโลฤกษ์ ได้แก่ กฤษ์ที่ 4,13 และ 22 เรียกว่า ภูมิปาโลฤกษ์ แปลว่า ผู้รักษาแผ่นดิน มีพระพุทธเป็นผู้รักษาฤกษ์ บาทฤกษ์ทั้ง 4 อยู่ในราศีเดียวกันเป็น บูรณะฤกษ์ เป็นฤกษ์ที่เหมาะสำหรับ การมงคลต่าง ๆ งานที่ต้องการความมั่นคงถาวร งานเกี่ยวกับที่ดิน การเกษตร การเช่าซื้อ ก่อสร้าง ปลูกเรือน ยกศาลพระภูมิแต่งงาน ขึ้นบ้านใหม่ ลาสิกขาบท เปิดอาคารห้างร้าน และสารพัดงานมงคลทั้งปวง
5. เทศาตรีฤกษ์ ได้แก่ กฤษ์ที่ 5,14 และ 23 เรียกว่า เทศาตรีฤกษ์ แปลว่า ข้ามท้องถิ่น หญิงเพศยา ผู้ท่องเที่ยว บางคราวเรียกว่า “เวสิโยฤกษ์” หมายถึง ฤกษ์พ่อค้า – แม่ค้า มีพระเสาร์เป็นผู้รักษาฤกษ์ บาทฤกษ์ทั้ง 4 อยู่ปลายราศีหนึ่ง และต้นราศีหนึ่งแห่งละ 2 บาทฤกษ์ คือคาบเกี่ยวอยู่ราศีละครึ่ง คือในราศี พฤษภกับเมถุน, กันย์กับตุลย์ และมกรกับกุมภ์ เป็นฤกษ์อกแตก หรือ พินทุฤกษ์ หรือ ดินฤกษ์ เป็นฤกษ์ที่เหมาะสำหรับ งานการติดต่อการค้าระหว่างถิ่น เกี่ยวกับความสนุกสนาน ชักชวนคนให้เข้าและออกเป็นจำนวนมาก เปิดโรงมหรสพ สถานเริงรมย์ ซ่องโสเภณี โรงแรม โรงหนัง ตลาดและศูนย์การค้า การประกอบอาชีพนอกสถานที่ อาชีพเร่ร่อน อาชีพที่ต้องย้ายที่อยู่เสมอ
6. เทวีฤกษ์ ได้แก่ ฤกษ์ที่ 6,15 และ 24 เรียกว่า เทวีฤกษ์ แปลว่า นางพญา ความงามหรูหรา ความมีเสน่ห์ โชคลาภ และการสมความปรารถนา มีพระพฤหัสฯ เป็นผู้รักษาฤกษ์ บาทฤกษ์ทั้ง 4 อยู่ในราศีเดียวกันเป็น บูรณะฤกษ์ เป็นฤกษ์ที่มุ่งให้เกิดโชคลาภ เป็นฤกษ์ที่เหมาะสำหรับ การเข้าหาผู้หลักผู้ใหญ่ การหมั้นหมายและสมรส การส่งตัวเจ้าสาวและเข้าห้องหอ การทำกิจการที่ต้องการชื่อเสียงและมีเสน่ห์ งานมีเกียรติ งานเชิงศิลปะ ตกแต่งชั้นสูง เปิดร้านค้าอัญมณีเครื่องประดับ ร้านเสริมสวย ตัดเย็บเสื้อผ้า การประชาสัมพันธ์ ลาสิขาบท ขึ้นบ้านใหม่ ขอความรัก งานเพื่อความสงบเรียบร้อย และสารพัดงานมงคลทั้งปวง
7. เพชฌฆาตฤกษ์ ได้แก่ ฤกษ์ที่ 7,16 และ 25 เรียกว่า เพชฌฆาตฤกษ์ แปลว่า ผู้ทำหน้าที่ฆ่า มีพระราหูเป็นผู้รักษาฤกษ์ ฤกษ์บาททั้ง 4 แตกขาดกัน และตรงข้ามกับ โจโรฤกษ์ เรียกว่า “ตรินิเอก” คือ อยู่ปลายราศี 3 ฤกษ์บาท และ ต้นราศี 1 ฤกษ์บาท ไม่ควรให้ฤกษ์ในการมงคลเลย เป็นฉันทฤกษ์ (ฤกษ์แตกขาด) เป็นฤกษ์ที่เหมาะสมสำหรับ การฟันผ่าอันตรายและอุปสรรค ต่อสู้เสี่ยงภัยต่าง ๆ อาสางานใหญ่ ทำกิจปราบปรามศัตรู ตัดสินคดีความ งานที่ใช้การตัดสินใจอย่างเด็ดขาด ประกอบพิธีไสยศาสตร์ ปลุกเสกเครื่องรางของขลัง ลงเลขยันต์ สร้างวัตถุมงคลแบบคงกระพันชาตรี สร้างสิ่งสาธารณะกุศลสงเคราะห์ เปิดโรงพยาบาล การรักษาโรคเรื้อรังที่หายยาก ๆ การยาตราทัพเจิมอาวุธยุทธภัณฑ์ สร้างโบสถ์วิหารการเปรียญ คล้ายกับ โจโรฤกษ์ แต่ฤกษ์นี้จะแรงกว่า
8. ราชาฤกษ์ ได้แก่ ฤกษ์ที่ 8,17 และ 26 เรียกว่า ราชาฤกษ์ แปลว่า ผู้ยิ่งใหญ่ ผู้มีอำนาจวาสนา พระเจ้าแผ่นดิน มีพระศุกร์เป็นผู้รักษาฤกษ์ บาทฤกษ์ทั้ง 4 อยู่ในราศีเดียวกัน เรียกว่า บูรณะฤกษ์ เป็นฤกษ์เฉพาะกิจการของผู้หลักผู้ใหญ่ ผู้นำกิจการขึ้นไปจนถึงพระราชา เป็นฤกษ์ที่เหมาะสำหรับ งานราชพิธี งานราชการงานเมือง สร้างที่ประทับ งานที่ต้องการชักจูงให้ผู้อื่นดำเนินตาม การเข้ารับตำแหน่งงาน การแสวงหาชื่อเสียงเกียรติยศ การเข้าหาผู้หลักผู้ใหญ่ งานมงคลสมรสที่หรูหรามีเกียรติ ลาสิขาบท การขึ้นบ้านใหม่ (สามัญชนควรเว้น ถ้าหาฤกษ์ไม่ได้ก็พออนุโลมใช้ได้ เพื่อดวงชะตาและความเหมาะสม) และงานมงคลทั้งปวง
9. สมโณฤกษ์ ได้แก่ ฤกษ์ที่ 9,18 และ 27 เรียกว่า สมโณฤกษ์ แปลว่า (สงบเรียบร้อย นักบวช นักสอนศาสนา) มีพระเกตุเป็นผู้รักษาฤกษ์ ฤกษ์บาททั้ง 4 อยู่ปลายราศีเดียวกัน แต่บาทฤกษ์สุดท้ายนี้ เป็นนวางค์ขาดสุดราศีพอดี เรียกว่า “จัตตุรฤกษ์” หรือ “ขันธฤกษ์” จึงเป็นจุดที่มีผลเสียให้เกิดอันตรายต่างๆ ในการแข่งขัน ใช้ได้เฉพาะกิจเกี่ยวกับความสงบความสุจริต เป็นฤกษ์ที่เหมาะสมสำหรับ ทำพิธีกรรมทางศาสนา และทางนักบวช เช่น การทำขวัญนาค การอุปสมบท หล่อพระและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เข้ารับการศึกษา และการกระทำทุกอย่าง เพื่อความสงบร่มเย็นเป็นสุข สงเคราะห์ในฤกษ์นี้ได้ เช่น ทำบุญขึ้นบ้านใหม่ ทำบุญต่ออายุ
วิธีปฏิบัติเกี่ยวกับฤกษ์ ตามหลักเหตุผลของฤกษ์งามยามดี
- ในพิธีมงคลต่าง ๆ เช่นงานมงคลสมรส งานทำบุญขึ้นบ้านใหม่ หรืองานพิธีเกี่ยวกับส่วนรวม ผู้จัดงานจะต้องถือฤกษ์งามยามดีเป็นสำคัญ ถ้าไม่ถือฤกษ์ทำตามชอบใจ หากเกิดความเสียหายอะไรขึ้นก็จะแก้ไขอะไรไม่ได้
- ถ้าเป็นงานส่วนตัวโดยเฉพาะ ไม่เกี่ยวเนื่องกับคนอื่นไม่ควรถือทางคดีโลก แต่นิยมถือฤกษ์ทางคดีธรรม คือ นิยมถือฤกษ์ความสะดวกเป็นสำคัญ สะดวกใจ สบายใจ เมื่อใดก็ทำเมื่อนั้น ไม่จำเป็นจะต้องมัวรอคอยฤกษ์ยามวันเวลา
- การถือฤกษ์ทางคดีธรรมนั้น คือ การพินิจพิจารณาตรวจดูความพร้อมอย่างรอบคอบ ก่อนที่จะดำเนินการงานทุกอย่าง เมื่อได้พิจารณาตรวจดูด้วยจิตทุกทิศแล้ว ไม่ประสบพบเห็นความขาดตกบกพร่อง ความเสียหายโดยประการใดๆ แล้วแน่ใจได้ว่า “นั้นแหละ” คือ “ฤกษ์งามยามดี” สำหรับตัวเราแล้ว ซึ่งถูกต้องตรงตามคำสอนทางพุทธศาสนาทุกประการ
- สำหรับชาวพุทธทั้งหลาย นิยมเป็นผู้ตระหนักอยู่ในหลักเหตุผล จะทำอะไรต้องทำอย่างมีเหตุผล นิยมใช้สติปัญญาพินิจพิจารณาว่างานใดเกี่ยวเนื่องด้วยคนอื่น งานใดเป็นเรื่องส่วนตัว แล้วประพฤติปฏิบัติตนตามสมควรแก่เหตุผล โดยเหมาะสม ชนิดไม่ให้ขัดโลก ไม่ให้ฝืนธรรม แบบโลกก็ไม่ให้ช้ำ ธรรมก็ไม่ให้เสีย บัวก็ไม่ให้ช้ำ น้ำ (ใจ) ก็ไม่ให้ขุ่น
- เมื่อปฏิบัติได้เช่นนี้ ก็หวังได้แน่ว่า จะมีความเจริญรุ่งเรืองโดยส่วนเดียว หาความเสื่อมเสียมิได้ และเป็นการปฏิบัติเหมาะสมกับภาวะที่ตนเป็นชาวพุทธอย่างแท้จริง
การถือฤกษ์งามยามดีมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อดีคือเกิดความสบายใจในการประกอบพิธีกรรมต่าง ๆ โดยไม่ต้องวิตกกังวลห่วงใย และสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ข้อเสียคือบุคคลที่เชื่อมั่นฤกษ์งามยามดีมากเกินไป จะทำอะไรก็ต้องรอคอยฤกษ์ เมื่อถึงคราวเหมาะที่ควรทำก็ไม่ทำ เพราะยังไม่ได้ฤกษ์ ผลประโยชน์ที่ควรได้ก็ไม่ได้ ทำให้เสียไปกับกาลเวลา บุคคลผู้ถือฤกษ์จัด มัวแต่รอคอยฤกษ์ดีอยู่ มักจะทำอะไรไม่ทันเพื่อน ดังนั้นควรพิจารณาการดูฤกษ์ให้เหมาะสม จึงจะเรียกได้ว่า “ฤกษ์งามยามดี”
ดูดวง ความรัก ดูดวง ประจำราศี
ดูดวง 2551 ราศี แบบทดสอบ ทำนาย ทายนิสัย แม่นจริงๆ