|
เวียนว่ายตายเกิด และ กฏแห่งกรรมมีจริง - 107 วิธีช่วยคนใกล้ตาย
|
|
|
วิธีช่วยคนป่วยใกล้ตาย...หลวงพ่อฤาษีฯ วัดท่าซุง
การช่วยคนป่วยหนักจริง ๆ อย่าปล่อยให้หนักจนกระทั่งไม่มีความรู้สึก
ตอนที่สติยังดีอยู่ให้นิมนต์พระไปสวดสักครั้งหนึ่ง
ไม่ใช่สวดพระอภิธรรมแต่เป็นการสวดพระปริตร วงสายสิญจน์ล้อมรอบ
ถ้าผู้ป่วยจะต้องตายเพราะสิ้นอายุขัยก็ต้องตายแน่ สายสิญจน์ป้องกันไม่ได้
แต่ว่าถ้าท่านผู้นั้นจะตายอย่าลืมว่าคนป่วยก็เหมือนคนที่ตกน้ำ ว่ายน้ำไม่เป็น
เราส่งอะไรให้เกาะ เขาก็จะเกาะ ส่งไม้ให้เกาะ เธอก็เกาะ
ส่งสุนัขเน่าให้เกาะ เธอก็เกาะ เพราะต้องการมีชีวิตอยู่
ก็เช่นกัน ถ้าคนป่วยเห็นพระสวดพระปริตร ก่อนสวดมีการสมาทานศีล
จิตของคนป่วยในตอนนั้น
ก็จะรับสมาทานศีลด้วยสติสัมปชัญญะที่สมบูรณ์ ทำให้เป็นคนที่มีศีล
เวลาที่มีการสวดพระปริตร
จิตก็จะฟังพระสวดด้วยความเคารพ จิตจะยึดอยู่กับพระ
หลังจากพระกลับแล้วจิตจะจับอารมณ์นั้นตลอด ในขณะป่วยไม่มีโอกาสทำลายศีล
เพราะกำลังป่วยไม่สามารถจะไปฆ่าใครหรือไปลักขโมยใคร
ถือว่าเป็นคนป่วยที่มีศีลบริสุทธิ์
ถ้ามีการถวายทานด้วย
ไม่ว่าทานนั้นจะเป็นธูปเทียน ดอกไม้ ปัจจัยหรือโภชนาหารก็ตาม
ถือว่าเป็นการถวายทานแก่พระสงฆ์ กำลังของทานจะช่วยคนป่วยได้อีกแรงหนึ่ง
อีกประการหนึ่ง ด้านอนุสสติ ถ้ามีพระพุทธรูปด้วย
จิตของเธอจะจับพระพุทธรูปเป็นพุทธานุสสติ
จำเสียงสวดมนต์เป็นธรรมานุสสติ
การนึกถึงพระสงฆ์ที่สวดก็เป็นสังฆานุสสติ
ถ้าเป็นอายุขัยที่จะพึงตาย
บาปกรรมใด ๆ ที่ทำมาแล้วในกาลก่อน จะไม่มีโอกาสให้ผลในเวลานั้น
เหลือแต่บุญอย่างเดียว ที่จะประคับประคองคนนั้น
ให้ไปสวรรค์ ไปพรหมโลก หรือไปนิพพาน
อานิสงส์การถวายสังฆทาน...หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง
การถวายสังฆทาน ๑ ครั้งในชีวิตและถวายด้วยจิตที่บริสุทธิ์มีศรัทธาแท้
องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงกล่าวว่า
ผลของสังฆทานนี้จะดลบันดาลให้แก่บุคคลผู้ถวาย
เกิดไปทุกชาติขึ้นชื่อว่าความยากจนเข็ญใจไม่มี
ในแดนใดที่เต็มไปด้วยความทุกข์ยากลำบากขัดสน
คนที่ถวายสังฆทานแล้วจะไม่ไปเกิดที่นั่น
ผลที่ให้ไปไกลมาก กล่าวว่าแม้แต่พระพุทธญาณเอง
ก็ยังไม่เห็นผลที่สุดของการถวายสังฆทาน
คำว่าไม่เห็นที่สุดของการถวายสังฆทาน หมายความว่า
แม้แต่บุคคลผู้เป็นเจ้าของสังฆทาน
บำเพ็ญบารมีแล้วเกิดไปอีกกี่แสนชาติก็ตาม
จนกระทั่งเข้าพระนิพพาน อานิสงส์นั้นก็ยังไม่หมด
นี่เป็นอำนาจของการถวายสังฆทาน
ทีนี้การถวายทานแก่พระ มีผลไม่เสมอกันอยู่อย่างหนึ่ง คือหมายความว่า
ถวายทานแก่พระที่มีจิตกำลังฟุ้งซ่านไปด้วยอำนาจของนิวรณ์ ๕ ประการ
อย่างนี้ เราถวายกี่หมื่นกี่แสนอานิสงส์ก็ไม่มาก
จะถวายสักเท่าไรอานิสงส์ได้แต่ว่าไม่มาก
ถ้าหากว่าถวายแก่ท่านผู้ปฏิบัติกรรมฐาน ถ้าหากเข้าถึงจิตบริสุทธิ์
เรื่องบริสุทธิ์แค่ไหนก็ช่าง อย่างน้อยที่สุดก็มี ขณิกสมาธิ อุปจารสมาธิ
บางท่านก็เข้าถึงฌานสมาบัติ บางท่านก็เป็นพระอริยเจ้าก็เข้าถึงผลสมาบัติ เป็นต้น
อย่างนี้มีผลมาก
การฟังธรรมในสมัยพุทธกาล...หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง
คนสมัยนั้น ท่านฟังเทศน์ครั้งเดียว ก็จบกิจ
ท่านไม่ได้ฟังเฉย ๆ หมายความว่า ฟังด้วยความตั้งใจ
การตั้งใจจำถ้อยคำที่พระพุทธเจ้าเทศน์ตัวนี้เป็นสมาธิ
และเมื่อจำแล้วก็พยายามคิดตามไปด้วยตัวนี้เป็นปัญญา
ฉะนั้น เมื่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเทศน์ คนทุกคนพร้อมไปด้วยศีล
หมายความว่าเวลานั้นใจเราบริสุทธิ์ ปราศจากปัญจเวร ๕ ประการ
และมีความตั้งใจฟังคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระทรงธรรม์บรมศาสดา
และคิดตามกระแสพระสัทธรรมเทศนา
ขององค์สมเด็จพระทรงสวัสดิ์โสภาคด้วยปัญญา
เมื่อเทศน์จบ ใจท่านก็จบจากกิจของพระพุทธศาสนา นั่นคือเป็นพระอรหันต์
หากว่าบรรดาท่านพุทธบริษัททุกท่านทำได้อย่างนั้น
ก็เชื่อว่าจะมีผลเช่นเดียวกัน
|
|
|
|
|