มงคล ๓๘ ประการ
พระธรรมวิสุทธิกวี (พิจิตร ฐิตวณฺโณ)
ชาติภูมิ พระธรรมวิสุทธิกวี นามเดิมว่า พิจิตร ถาวรสุวรรณ เป็นบุตรคนโต ในจำนวนบุตร ๙ คน ของนายแก้ว และนาง โผ้เลี่ยน ถาวรสุวรรณ เกิดเมื่อวันที่ ๒๔ มิถุนายน ๒๔๗๙ ณ หมู่บ้านพังขาม อำเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา เมื่ออายุได้ ๕-๗ ขวบ บิดามารดาได้ย้ายไปทำงานที่อื่น จึงได้ อยู่ในความอุปการะของยาย คือ นางชุม แจ่มใส เมื่ออายุย่างเข้า ๘ ขวบ ได้ย้ายตามบิดามารดา ไปอยู่ ณ บ้านดอนคัน เพื่อเข้าเรียนในชั้นประถมศึกษา ที่ โรงเรียนลือสิทธิ์วิทยา วัดธรรมประดิษฐ์ จนจบการ ศึกษาและได้ช่วยบิดามารดาทำงานอยู่ที่บ้านจนอายุได้ ๑๕ ปี จึงขออนุญาต บรรพชา แต่มารดาบิดาไม่อนุญาต จึงขอผลัดไว้อีก ๓ ปี ในระหว่างที่รอ ๓ ปี ก็ได้ช่วยบิดามารดา ทำงานอย่างขยันขันแข็ง และเตรียมตัวใน การบรรพชา อย่างจริงจัง เมื่อมีเวลาว่างก็ไปอยู่ที่ วัดธรรมประดิษฐ์เพื่อเป็น การฝึกข้อวัตรปฏิบัติในปี พ.ศ. ๒๔๙๖ เมื่ออายุได้ ๑๗ ปี ก็ได้รับอนุญาต ให้บรรพชาได้ โดยท่านเจ้าคุณพระอุดมศีลคุณ(เริ่ม นนฺทิโย) วัดบุรณศิริมาตุยาราม ผู้เป็นหลวง อา ในสมัย ที่เป็นพระครูปลัดเถรธรรมวัฒน์ ได้นำไปฝากให้บวชที่วัดโสมนัสวิหาร โดย ถวายตัวเป็นศิษย์ของพระวินัยวงศ์เทวี (พวง ธมฺมธโร ป.ธ. ๕) ได้บรรพชาเป็นสามเณรเมื่อวันที่ ๒๔ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๙๖ โดยสมเด็จพระวันรัต (จับ ฐิตธมฺโม ป.ธ. ๙) และได้ตั้งใจศึกษาเล่าเรียนจนสอบได้เปรียญ ๓ ประโยค ตั้งแต่เป็นสามเณรเมื่ออายุได้ ๒๐ ปีบริบูรณ์ จึงได้อุปสมบท ณ วัดโสมนัสวิหาร เมื่อวันที่ ๖ มิถุนายน ๒๔๙๙ โดย มีสมเด็จพระวันรัต(จับ ฐิตธมฺโม ป.ธ. ๙ )ในสมัยที่ยังเป็นพระอมรมุนี พระราชาคณะชั้นเทพ เจ้าอาวาสวัดโสมนัสวิหาร เป็นพระอุปัชฌาย์
มงคลชีวิต 38 ประการ
โดย พระธรรมวิสุทธิกวี (พิจิตร ฐิตวณฺโณ)
วัดโสมนัสวิหาร กรุงเทพฯ
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ใกล้พระนครสาวัตถี ครั้งนั้นแล ครั้นปฐมยามล่วงไปเทวดาตนหนึ่งมีรัศมีงามยิ่งนัก ยังพระวิหารเชตวันทั้งสิ้นให้สว่างไสว เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ถวายบังคมแล้วยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้ว ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคด้วยคาถาว่า
[๖] เทวดาและมนุษย์เป็นอันมาก ผู้หวังความสวัสดี ได้พากันคิดมงคลทั้งหลาย ขอพระองค์จงตรัสอุดมมงคล
พระผู้มีพระภาคตรัสพระคาถาตอบว่า
การไม่คบคนพาล ๑ การคบบัณฑิต ๑ การบูชาบุคคลที่ควรบูชา ๑ นี้เป็นอุดมมงคล
การอยู่ในประเทศอันสมควร ๑ความเป็นผู้มีบุญอันกระทำแล้วในกาลก่อน ๑ การตั้งตนไว้ชอบ ๑ นี้เป็นอุดมมงคล
พาหุสัจจะ ๑ ศิลป ๑ วินัยที่ศึกษาดีแล้ว ๑ วาจาสุภาสิต ๑ นี้เป็นอุดมมงคล
การบำรุงมารดาบิดา ๑ การสงเคราะห์บุตรภรรยา ๑ การงานอันไม่อากูล ๑ นี้เป็นอุดมมงคล
ทาน ๑ การประพฤติธรรม ๑การสงเคราะห์ญาติ ๑ กรรมอันไม่มีโทษ ๑ นี้เป็นอุดมมงคล
การงดการเว้นจากบาป ๑ ความสำรวมจากการดื่มน้ำเมา ๑ ความไม่ประมาทในธรรมทั้งหลาย ๑ นี้เป็นอุดมมงคล
ความเคารพ ๑ ความประพฤติถ่อมตน ๑ ความสันโดษ ๑ความกตัญญู ๑ การฟังธรรมโดยกาล ๑ นี้เป็นอุดมมงคล
ความอดทน ๑ ความเป็นผู้ว่าง่าย ๑ การได้เห็นสมณะทั้งหลาย ๑ การสนทนาธรรมโดยกาล ๑ นี้เป็นอุดมมงคล
ความเพียร ๑ พรหมจรรย์ ๑ การเห็นอริยสัจ ๑ การกระทำนิพพานให้แจ้ง ๑ นี้เป็นอุดมมงคล
จิตของผู้ใดอันโลกธรรมทั้งหลายถูกต้องแล้ว ย่อมไม่หวั่นไหว ๑ ไม่เศร้าโศก ๑ ปราศจากธุลี ๑ เป็นจิตเกษม ๑ นี้เป็นอุดมมงคล
เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย ทำมงคลเช่นนี้แล้ว เป็นผู้ไม่ปราชัยในข้าศึกทุกหมู่เหล่า ย่อมถึงความสวัสดีในที่ทุกสถาน นี้เป็นอุดมมงคลของเทวดาและมนุษย์เหล่านั้น ฯ
จบมงคลสูตร
ร้อยแก้ว มงคลสูตร ตามพระไตรปิฎกฉบับธรรมทาน(รูปดอกบัว แก้ไขครั้งที่ ๒)
เชิงอรรถความหมาย
(๑) ไม่คบคนพาล
(๒) คบบัณฑิต
(๓) บูชาคนที่ควรบูชา
(๔) อยู่ในปฏิรูปเทศ อยู่ในถิ่นมีสิ่งแวดล้อมดี
(๕) ได้ทำความดีให้พร้อมไว้แต่ก่อน
(๖) ตั้งตนไว้ชอบ
(๗) เล่าเรียนศึกษามาก
(๘) มีศิลปวิทยา
(๙) มีระเบียบวินัย
(๑๐) วาจาสุภาษิต
(๑๑) บำรุงมารดาบิดา
(๑๒) สงเคราะห์บุตร
(๑๓) สงเคราะห์ภรรยา
(๑๔) การงานไม่อากูล
(๑๕) รู้จักให้
(๑๖) ประพฤติธรรม
(๑๗) สงเคราะห์ญาติ
(๑๘) การงานไม่มีโทษ
(๑๙) เว้นจากความชั่ว
(๒๐) เว้นจากาการดื่มน้ำเมา
(๒๑) ไม่ประมาทในธรรมทั้งหลาย
(๒๒) ความเคารพ
(๒๓) ความสุภาพอ่อนน้อม
(๒๔) ความสันโดษ
(๒๕) มีความกตัญญู
(๒๖) ฟังธรรมตามกาล
(๒๗) ความอดทน
(๒๘) เป็นผู้ว่าง่ายสอนง่าย
(๒๙) พบเห็นสมณะ
(๓๐) สนทนาธรรมตามกาล
(๓๑) มีความเพียรเผากิเลส
(๓๒) ประพฤติพรหมจรรย์
(๓๓) เห็นอริยสัจจ์
(๓๔) ทำพระนิพพานให้แจ้ง
(๓๕) ถูกโลกธรรม จิตไม่หวั่นไหว
(๓๖) จิตไร้เศร้า
(๓๗) จิตปราศจากธุลี
(๓๘) จิตเกษม
(ฝ่ายองค์สมเด็จชินสีห์ ตรัสตอบวาที ด้วยพระคาถาไพจิตร์)
๑. หนึ่งคือบ่คบพาล(๑) เพราะจะพาประพฤติผิด
หนึ่งคบกะบัณฑิต(๒) เพราะจะพาประสพผล
หนึ่งกราบและบูชา อภิบชะนีย์ชน(๓)
ข้อนี้แหละมงคล อดิเรกอุดมดี
๒. ความอยู่ประเทศซึ่ง เหมาะและควรจะสุขี(๔)
อีกบุญญะการที่ ณ อดีตะมาดล(๕)
อีกหมั่นประพฤติควร ณ สะภาวะแห่งตน(๖)
ข้อนี้แหละมงคล อดิเรกอุดมดี
๓. ความได้สดับมาก(๗) และกำหนดสุวาที
อีกศิลปะศาสตร์มี(๘) จะประกอบมนุญการ
อีกหนึ่งวินัยอัน นรเรียนและเชี่ยวชาญ(๙)
อีกคำเพราะบรรสาน(๑๐) ฤดิแห่งประชาชน
ทั้งสี่ประการล้วน จะประสิทธิ์มนุญผล
ข้อนี้แหละมงคล อดิเรกอุดมดี
๔. บำรุงบิดามา ตุระ(๑๑) ด้วยหทัยปรีย์
หากลูก(๑๒) และเมียมี ก็ถนอมประหนึ่งตน(๑๓)
การงานกระทำไป บ่มิยุ่งและสับสน(๑๔)
ข้อนี้แหละมงคล อดิเรกอุดมดี
๕. ให้ทาน ณ กาลควร(๑๕) และประพฤติสุธรรมศรี(๑๖)
อีกสงเคราะห์ญาติ(๑๗)ที่ ปฏิบัติบำเรอตน
กอบกรรมะอันไร้ ทุษะกลั้วและมัวมล(๑๘)
ข้อนี้แหละมงคล อดิเรกอุดมดี
๖. ความงดประพฤติบาป(๑๙) อกุศลบ่ให้มี
สำรวมวรินทรีย์ และสุราบ่เมามล(๒๐)
ความไม่ประมาทใน พหุธรรมะโกศล(๒๑)
ข้อนี้แหละมงคล อดิเรกอุดมดี
๗. เคารพ(๒๒) ณ ผู้ควร จะประณตและนอมศีร์
อีกหนึ่งมิได้มี จะกระด้างและจองหอง(๒๓)
ยินดี ณ ของตน บ่มิโลภทยานปอง(๒๔)
อีกรู้คุณาของ นรผู้ประคองตน(๒๕)
ฟังธรรมะโดยกา- ละ(๒๖) เจริญคุณานนท์
ข้อนี้แหละมงคล อดิเรกอุดมดี
๘. มีจิตตะอดทน และสถิต ณ ขันตี(๒๗)
อีกหนึ่งบ่พึงมี ฤดิดื้อทนงหาญ(๒๘)
หนึ่งเห็นคณาเลิด สมณาวราจารย์(๒๙)
กล่าวธรรมะโดยกาล(๓๐) วรกิจจะโกศล
ทั้งสี่ประการล้วน จะประสิทธิ์มนุญผล
ข้อนี้แหละมงคล อดิเรกอุดมดี
๙. เพียรเผากิเลสล้าง มละโทษะยายี(๓๑)
อีกประการหนึ่งประพฤติตดี ดุจะพรหมพิสุทธ์สรรพ์(๓๒)
เห็นแจ้ง ณ สี่องค์ พระอะรียะสัจอัน(๓๓)
อาจนำมนุษผัน ติระข้ามทเลวน
อีกทำพระนิพพา นะประจักษะแก่ชน(๓๔)
ข้อนี้แหละมงคล อดิเรกอุดมดี
๑๐. จิตใครผิได้ต้อง วรโลกะธรรมศรี
แล้วย่อมบ่พึงมี จะประหวั่นฤกังวล(๓๕)
ไร้โศก(๓๖) ธุลีสูญ(๓๗) และสบายบ่มั่วมล(๓๘)
ข้อนี้แหละมงคล อดิเรกอุดมดี
๑๑. เทวามนุษทำ วรมงคะลาฉนี้
เป็นผู้ประเสริฐที่ บ่มิแพ้ ณ แห่งหน
ย่อมถึงสวัสดี สิริทุกประเทศดล
ข้อนี้แหละมงคล อดิเรกอุดมดี
บทความต่างๆใน วารสารเมธาธรรม.
มีดังนี้