3 ดอก หมายถึง พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
5 ดอก หมายถึง นอกจาก พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ แล้วยังมี บิดามารดา และครูบาอาจารย์
9 ดอก หมายถึง พุทธคุณ (คุณพระพุทธเจ้า) 9 ข้อ เช่น
- เป็นผู้ไกลจากกิเลส
- เป็นผู้ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง
- เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยวิชชา และจรณะ
- เป็นผู้ไปแล้วด้วยดี
- เป็นผู้รู้แจ้งโลก
- เป็นผู้มีความสามารถ ฝึกบุรุษ ที่สมควรฝึกได้อย่างไม่มีใครยิ่งกว่า
- เป็นครูผู้สอนของ เทวดา และมนุษย์
- เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน
- เป็นผู้มีความเจริญ จำแนกธรรมสั่งสอนสัตว์
การจุกดธูปบูชาหรือ ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ถือปฏิบัติกันมายาวนานนับพันๆ ปีแล้ว ลองดูสิว่าที่ผ่านๆ มา เราใช้ธูปสักการะกันถูกต้องตามจำนวนรึเปล่า
ธูป 1 ดอก ไหว้ศพ เจ้าที่ วิญญาณธรรมดา ที่ไม่ได้ขึ้นชั้นเทพ
ธูป 2 ดอก ใช้บูชาเจ้าที่
ธูป 3 ดอก ใช้บูชาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
ธูป 5 ดอก ใช้บูชาพระรัตนตรัย บูชารัชกาลที่ 5 ธาตุทั้งห้า หรือทิศทั้งห้า พระภูมิ
ธูป 7 ดอก ไหว้พระพรหม บูชาพระอาทิตย์ ถือคติคุ้มครองทั้ง 7 วันในสัปดาห์
ธูป 8 ดอก บูชาเทพเจ้าของชาวฮินดู
ธูป 9 ดอก บูชาแก้ว 9 ประการ พระพุทธคุณ ทั้งเก้า และพระเทพารักษ์
ธูป 10 ดอก ใช้บูชาเจ้าที่ตามความเชื่อของชาวจีนบางกลุ่ม
ธูป 12 ดอก บูชาเจ้าแม่กวนอิม บูชาพระคุณของแม่
ธูป 16 ดอก บูชาเทพชั้นครู หรือ พิธีกลางแจ้ง ที่มีการอัญเชิญเทวดา ที่สำคัญหมายถึงสวรรค์ 16 ชั้นฟ้า
ธูป 19 ดอก บูชาเทวดาทั้ง 0 ทิศ
ธูป 21 ดอก บูชาพระคุณของพ่อ
ธูป 32 ดอก ใช้สวดชุมนุมเทวดาทั้ง 4 ทิศ
ธูป 108 ดอก บูชาสิ่งสูงสุดทั่วทั้งโลกทุกชั้นฟ้า
ธูป 1 ดอก ไหว้ผู้เสียชีวิต
ธูป 2 ดอก ไหว้มึ้งซิ้ง (เจ้าประตู)
ธูป 3 ดอก ไหว้พระรัตนตรัย ( พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ )
ธูป 5 ดอก ไหว้พระรัตนตรัย และมารดา บิดา
ธูป 9 ดอก ไหว้พระนวโลกุตระธรรม ( บางที่ก็ว่าไหว้พระภูมิเจ้าที่ ทั้ง 9 พระองค์ )
ธูป 16 ดอก ไหว้องค์มหาเทพ ผู้ยิ่งไหญ่
ธุป 32 ดอก ไหว้เสดาะเคราะต่อชะตาเสริมบุญบารมี ( อาการ 32 แทนตัว )
ธูป 108 ดอก ไหว้พระพุทธะเจ้า พระโพธิสัตว์ เทพเซียน ทั่วจักรวาล
ถือว่าเป็นครับ แต่ขอให้ทำด้วยใจที่ศรัทรามั่นต่อพระรัตนะตรัย อย่างสุดซึ้ง และมีเจตนาว่า ธูปเทียน ที่เราจุดนี้ ทำเพื่อบูชาพระรัตนตรัย อย่างสำนึก ในพระคุณอันไม่มีประมาณ
(และทราบว่า ท่านมีพระคุณอย่างไร) ก็ถือว่าเป็นการบูชาด้วยการจุดประทีป(เทียน)และของหอม(ธูป)ครับ
โดยลักษณะประเพณี การบูชาพระรัตนตรัยมักจะใช้วัตถุทั้ง3 คือ
1.บูชาพระพุทธ ด้วยธูป 3ดอก เปรียบประดุจพระบริสุทธิคุณ พระปัญญาคุณ และ พระกรุณาคุณ ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
2.บูชาพระธรรม ด้วยเทียนอันเปรียบดังแสงสว่างแห่งดวงปัญญา อันนำไปสู่ความหลุดพ้น
3.บูชาพระสงฆ์ ด้วยดอกไม้-เครื่องหอม
ในทางปฏิบัติ การจุดเทียนบูชา ถือเป็นการบูชาพระรัตนตรัยด้วยโคมประทีปเช่นกัน อานิสงฆ์ตั้งแต่ ลักษณะดวงตาที่สดใสงดงาม มีปัญญาดี ไปจนถึงทิพยจักขุ ธรรมจักขุ ความสว่างไสวไปจนถึงหมื่นโลกธาตุแสนโกฎิจักรวาล
การจุดธูปเทียนบูชาพระ
การจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย ที่ถูกต้องตามหลักและตามแบบของกรมการศาสนา คือ เทียน 2 เล่ม หมายถึง พระธรรม และพระวินัย ให้จุดจากซ้ายไปขวาคือพระธรรมต้องมาก่อน ส่วนการจุดธูป 3 ดอก ก็เช่นกัน ให้จุดจากซ้ายไปขวา ธูป 3 ดอก หมายถึงพระปัญญาคุณ พระวิสุทธิคุณ และพระมหากรุณาธิคุณขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้านั่นเอง
เครื่องสักการะบูชาพระรัตนตรัย
เครื่องสักการะบูชาพระรัตนตรัยนั้น ชาวพุทธไทยเราทั้งหลาย นิยมนำมาบูชาเป็นประจำเสมอ ในการประกอบพิธีกรรม ในทางพระพุทธศาสนาทั้งงานมงคล และงานอวมงคลมี ๓ อย่างคือ
๑. ธูป
๒. เทียน และ
๓. ดอกไม้
ธูปสำหรับบูชาพระพุทธเจ้า
ธูปนั้น สำหรับบูชาพระพุทธเจ้า นิยมจุดบูชาครั้งละ ๓ ดอก เป็นอย่างน้อย โดยมีความมุ่งหมายว่า พระพุทธเจ้านั้นพระองค์ทรงมีพระคุณเป็นอันมาก ยากที่จะพรรณนาให้สิ้นสุดได้ แต่เมื่อประมวลกล่าวเฉพราะพระคุณ ที่เป็นใหญ่เป็นประธานแห่งพระคุณทั้งปวง คงมี ๓ ประการ คือ:-
๑.
พระปัญญาธิคุณ
๒.
พระบริสุทธิคุณ และ
๓.
พระมหากรุณาธิคุณ
ธูปทั้ง ๓ ดอกนั้น สำหรับจุดเพื่อบูชาพระพุทธคุณทั้ง ๓ ประการนี้
แต่บางท่านก็อธิบายความมุ่งหมายแตกต่างออกไปว่า ธูป ๓ ธูป ดอกนั้น เพื่อบูชาพระพุทธทั้ง ๓ ประเภท คือ:-
๑.
อดีตสัมพุทธะ พระพุทธเจ้าทั้งหลายในอดีต
๒.
อนาคตสัมมาพุทธะ พระพุทธเจ้าทั้งหลายในอนาคตและ
๓.
ปัจจุปันนสัมพุทธะ พระพุทธเจ้าในปัจจุบัน
ธูป สำหรับบูชาพระพุทธเจ้านั้น นิยมใช้ธูป มีกลิ่นหอม โดยมาความหมายว่า ธรรมดากลินธูปนี้เป็นกลิ่นหอมที่น่าอัศจรรย์ กว่ากลิ่นหอมต่าง ๆ ที่ชาวโลกนิยมใช้กัน
กลิ่นหอมที่ชาวโลกนิยมใช้กันอยู่ทุกชนิด เมื่อบุคลได้สูดกลิ่นแล้วเป็นเหตุทำให้กิเลสฟูตัวขึ้น ทำให้จิตใจฟุ้งซ่าน ไม่สงบส่วนกลิ่นหอมของธูปนั้น เมื่อบุคคลได้สูดกลิ่นแล้วเป็นเหตุทำให้กิเลสยุบตัวลง ทำให้จิตใจสงบไม่ฟุ้งซ่าน
อนึ่ง ธูปนั้นแม้จะถูกไฟไหม้หมดไปแล้ว แต่กลิ่นหอมของธูปนี้ก็ยังหอมอบอวลอยู่ในบริเวณนั้นได้เป็นเวลานานฉันใด พระคุณของพระพุทธเจ้า ก็เป็นที่ซาบซึ้งเข้าถึงจิตใจของชาวบุคคลทั้งหลาย โดยที่สุด แม้แต่มหาโจรใจเหี้ยม เช่น องคุลีมาลโจร เป็นต้น ย่อมทำให้ผู้นั้นมีจิตใจสงบระงับจากการทำความชั่ว หันหน้าเข้าสู่ความดี และแม้แต่พระพุทธเจ้าจะได้เสด็จดับขันธปรินิพพานไปนานถึง ๒ พันปีเศษแล้วก็ตาม แต่พระพุทธคุณก็ยังปรากฏซาบซึ้งตรึงอยู่กับจิตใจของชาวพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย ตลอดมาจนกระทั่งทุกวันนี้ ฉันนั้น
เทียนสำหรับบูชาพระธรรม
เทียนนั้น สำหรับบูชาพระธรรม นิยมจุดบูชาครั้งละ ๒ เล่ม เป็นอย่างน้อย โดยมาความมุ่งหมายว่า พระศาสนธรรมคำสั่งสอน ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น แยกออกได้เป็น ๒ อย่าง คือ
๑.
พระวินัย สำหรับฝึกหัดกาย และวาจา ให้เป็นระเบียบเรียบร้อย และ
๒.
พระธรรม สำหรับอบรมจิตใจ ให้สงบระงับจากความชั่ว ทุจริตทุกประการ และ เทียนที่นิยมจุดบูชาครั้งละ ๒ เล่ม ก็เพื่อบูชาพระวินัยเล่ม ๑ และบูชาพระธรรม อีกเล่ม ๑
เทียน สำหรับบูชาพระธรรมนั้น นิมยมใช้เทียน ขนาดใหญ่พอสมควรแก่เชิงเทียน ความนิยมใช้เทียนจุดบูชาพระธรรมนั้น โดยมุ่งหมายว่า ธรรมดาเทียนนี้ บุคคลจุดขึ้น ณ สถานที่ใด ย่อมเกิดจำกัดความมืดในสถานที่นั้น ให้หายหมดไป ทำให้เกิดเเสงสว่างขึ้น ณ ที่แห่งนั้น ฉันใด
พระศาสนธรรมคำสั่งสอน ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้นบุคคลใดมาศึกษาอบรมเกิดความรู้ความเข้าใจขึ้นแล้ว ย่อมกำจัดความมืด คือ โมหะ ความโง่เขลาเบา ปัญญาในจิตใจของบุคคลนั้นให้หายหมดไป ทำให้เกิดแสงสว่าง คือ ปัญญาขึ้นภายใจจิตใจของตนฉันนั้น
ดอกไม้สำหรับบูชาพระสงฆ์
ดอกไม้สำหรับบูชาพระสงฆ์ โดยความมุ่งหมายว่า ธรรมดาดอกไม้นานาพันธุ์ เมื่อยังอยู่ ณ สถานที่เกิดของมันก็ย่อมมีความสวยงามตามสมควรแก่สภาพของพันธุ์ไม้นั้น ๆ ครั้นบุคคลเราเก็บดอกไม้นานาพันธุ์เหล่านั้นมากองรวมกับไว้โดยมิได้จัดสรร ย่อมหาความเป็นระเบียบมิได้ ย่อมไม่สวยงาม ไม่น่าดูไม่น่าชม ต่อเมื่อนายมาลาการ คือ ช่างดอกไม้ผู้ฉลาด มาจัดสรรดอกไม้เหล่านั้นโดยจัดใส่แจกันหรือจัดใส่พานประดับให้เข้าระเบียบแล้ว ย่อมเป็นระเบียบเรียบร้อยเกิดความสวยงามน่าดูน่าชม ฉันใด
บรรดาพระสงฆ์สาวกของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย สมัยเมื่อยังเป็นคฤหัสถ์อยู่บ้านเรือนของตน ๆ ย่อมมีกิริยามารยาททางกายทางวาจา และจิตใจ เรียบร้อยตามสมควรแก่ภูมิชั้นแห่งตระกูลของตน ๆ หยาบบ้าง ปานกลางบ้าง ละเอียดบ้าง ครั้งคฤหัสถ์เหล่านั้น ซึ่งต่างชาติกัน ต่างตระกูลกัน มีนิสัยอัธยาศัยต่าง ๆ กัน มีศรัทธาเลื่อมใสเข้ามาบวชอยู่ร่วมกัน ถ้าไม่มีระเบียบปฎิบัติเป็นแบบแผนเดียวกัน พระสงฆ์สาวกเหล่านั้นก็จะหาความเป็นระบียบมิได้ ย่อมไม่เป็นที่ตั้งแห่งศรัทธาเลื่อมใสของผู้ได้ประสบพบเห็น ครั้นเมื่อพระพุทธเจ้าผู้เปรียบเสมือนนายมาลาการผู้ฉลาดได้ทรงวางพระธรรมวินัย ไว้เป็นแบบแผนประพฤติปฎิบัติ จัดพระสงฆ์สาวกเหล่านั้น ให้ประพฤติปฎิบัติอยู่ในระเบียบเดียวกัน จึงเกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อยน่าเคารพ น่าสักการะบูชา ฉันนั้น
อนึ่ง ดอกไม้สำหรับให้บูชาพระสงฆ์ นิยมไช้ดอกไม้ที่เพรียบพร้อมด้วยลักษณะ ๓ ประการ คือ
๑.
มีสีสวย
๒.
มีกลิ่นหอม
๓.
กำลังสดชื่น
ดอกไม้ที่บูชาพระประจำวันนั้น นิยมจัดเปลี่ยนให้สดอยู่เสมอ อันนี้เป็นนิมิตหมายแห่งความสดชื่น ความรุ่งเรือง ไม่นิยมปล่อยให้เหี่ยวแห้ง เพราะความเหี่ยวแห้ง เป็นนิมิตหมายแห่งความหดหู่ใจ ความเสื่อมโทรม เป็นต้น
บุคคลผู้บูชาด้วยดอกไม้ที่มีสีสวย แต่ไม่มีกลิ่นหอม เช่น บูชาพระด้วยดอกไม้พลาสติก หรือดอกไม้ประดิษฐ์เป็นต้น ต่อไปในภายหน้าบุคคลผู้นั้นจะได้อะไร ๆ ก็ล้วนแต่มีรูปร่างลักษณะดีมีรูปสวย แต่คุณภาพไม่ดี ดังคำพังเพยว่า
“ สวยแต่รูป แต่จูบไม่หอม ”
บุคคลผู้บูชาพระด้วยดอกไม้มีกลิ่นหอม แต่มีสีไม่สวย ต่อไปในภายหน้า บุคคลผู้นั้นจะได้อะไร ๆ ก็ล้วนแต่มีคุณภาพดีแต่รูปร่างลักษณะไม่สวย ไม่งดงาม ดังคำพังเพย
“ ถึงรูปชั่วตัวดำแต่น้ำใจดี ”
บุคคลผู้บูชาด้วยพระดอกไม้กำลังสดชื่น ต่อไปภายหน้า บุคคลผู้นั้นจะได้อะไร ๆ ก็ล้วนแต่เป็นของใหม่ ๆ ไม่ต้องใช้ของที่ขาใช้แล้ว เป็นมือหนึ่ง ไม่ต้องเป็นมือสองรองใคร ดังตัวอย่างเช่น ชูชกมีอายุคราวปู่ได้นางอมิตตดาซึ่งเป็นสาวแรกรุ่นคราวลูกคราวหลานเป็นภรรยา เพราะอานิสงส์ที่ชูชกได้เคยบูชาพระด้วยดอกบัวตูมที่กำลังสดชื่น ฉะนั้น บุคคลผู้บูชาพระด้วยดอกไม้ที่บอบช้ำเหี่ยวแห้ง ต่อไป ในภายหน้า บุคคลผู้นั้นจะได้อะไร ๆ ก็ล้วนแต่เป็น ของเก่า ๆ เหี่ยว ๆ แห้ง ๆ เป็นของที่ผ่านมือผู้อื่นมาแล้ว ตัวอย่างเช่น นางอมิตตดาได้ชูชกแก่คราวปู่เป็นสามี เพราะโทษที่ได้เคยบูชาพระด้วยดอกไม้ที่บอบช้ำเหี่ยว ๆ ฉะนั้น
ธูป 1 ดอก
เป็นเรื่องของการเน้น หรือเจาะจง ในเรื่องที่เกี่ยวกับผีบ้านผีเรือน
วิญญาณภาคพื้น เช่น การจุดไหว้เจ้าที่ หรือผีบ้านผีเรือน
ธูป 2 ดอก
เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับวิญญาณ และการปักธูปบนอาหาร
ธูป 3 ดอก
เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการบูชา พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
ธูป 4 ดอก
เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับธาตุ ใช้ในการสวดเสริมดวงชะตา
ธูป 5 ดอก
เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการบูชา พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
คุณบิดา คุณมารดาและคุณครูบาอาจารย์, ทิศทั้ง 5
ธูป 6 ดอก
เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับธาตุ กำลังไฟ (คนที่เกิดวันอาทิตย์) ใช้ในการสวดเสริมดวงชะตา
ธูป 7 ดอก
เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับจิตวิญญาณ (ศาลเจ้าพ่อ เจ้าแม่) ครูบาอาจารย์ที่เสียชีวิตแล้ว
ธูป 8 ดอก
เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการเสริมดวง
ธูป 9 ดอก
เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการสักการะบูชาเทพ เจ้าป่า เจ้าเขา
หรืออรุกขะเทวดาศาลพระภูมิ ศาลเทพ
ธูป 10 ดอก
เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับธาตุ ใช้ในการสวดเสริมดวงชะตา ** เจ้าที่ตามความเชื่อของชาวจีนบางกลุ่ม
ธูป 11 ดอก
เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการบูชาเทวดาชั้นสูง
ธูป 12 ดอก
เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการบูชาพระธาตุ ใช้ในการสวดเสริมดวงชะตา ** การบูชาเจ้าแม่กวนอิม และพระคุณแม่
ธูป 13 ดอก
ไม่นิยมจุด
ธูป 14 ดอก
เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับบูชาคุณพระสงฆ์ เช่น การจุดบูชาสักการะรูปปั้นพระสงฆ์
ธูป 15 ดอก
เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับธาตุ ใช้ในการสวดเสริมดวงชะตา
ธูป 16 ดอก
เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการบูชาเทพชั้นสูง เช่น บูชาพระพรหม ฯลฯ การบูชาเทพชั้นครู หรือพิธีกลางแจ้งที่การอัญเชิญเทวดา หมายถึง สวรรค์ทั้ง 16 ชั้นฟ้า (นิยมใช้สวดบทชุมนุมเทวดาก่อนประกอบพิธี)
ธูป 17 ดอก
เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับธาตุ ใช้ในการสวดเสริมดวงชะตา
ธูป 18 ดอก
ไม่นิยมจุด
ธูป 19 ดอก
เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการจุดบูชาครู และการสวดเสริมดวงชะตา **การบูชาเทวดาทั้ง 10 ทิศ
ธูป 20 ดอก
เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องในการสวดเสริมดวงชะตา
ธูป 21 ดอก
เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการบูชาพระแม่ธรณี (ใช้ในพิธีกรรมเบิกพระแม่ธรณี)
และการสวดเสริมดวง
ธูป 38 ดอก
เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการบูชาพระธรรม
ธูป 39 ดอก
เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการบูชาพระแม่โพสพ
ธูป 56 ดอก
เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับบูชาคุณพระพุทธเจ้า
ธูป 108 ดอก
เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการประกอบพิธีกรรมสวดเสริมดวงชะตา **บูชาสิ่งสูงสุด ทั่วทั้งโลกทุกชั้นฟ้า