คำปลอบใจใดๆ คงช่วยดึงใจเรากลับไม่ได้ เท่ากับคำปลอบใจจากใจเราเองที่บอกให้ใจเรากลับมาเสีย
ความช่วยเหลือจากใคร จะเกิดได้อย่างไรทุกครั้ง ถ้าเรายังไม่รู้จักช่วยเหลือตัวเองก่อน
"ความรัก" ต้องวางอยู่บนรากฐานแห่งความมีสติ
รักอย่างมีปัญญา เพราะจะทำให้ผู้รักมีความสุข เป็นอิสระ
ไม่มีจิตใจที่คับแคบ ที่จะผูกมัดรัด "เขา" เอาไว้เป็นของ "เรา"
ต้องเตือนใจเราเองอยู่เสมอว่า "เราจะรักอย่างมีสติ"....
พร้อมด้วยปัญญา จะต้องไม่ติดอยู่ในความหลงไหลไร้สติ...
ที่มุ่งคิดแต่จะให้เขากลับมาตอบสนองเรา เราจึงจะมีความสุข...
เพราะถ้าเป็นเช่นนั้น เรานั่นเองแหละที่จะเจ็บปวดและเกิดทุกข์...
สิ่งที่เราตามหาและอยากได้มาครอบครองให้นานที่สุดหรือตลอดไปคือ “ความสุข” ยิ่งวิ่งไล่... ยิ่งวิ่งตาม.....เหมือนกลับยิ่งห่างออกไปทุกที เคยฟังธรรมของท่านพุทธทาส เกี่ยวกับความสุข จำได้แม่น...... แต่ลืมเลือนในการนำมาปฏิบัติ
วันใดที่สับสน ท้อแท้ หรือรู้สึกอ่อนแอ เราก็มักจะนั่งหลอกตัวเอง ด้วยการทบทวนคำว่า “ความสุข” ที่เรากำลังตามหา ตามแนวคำสอนของท่านพุทธทาส มันช่วยได้เสมอ ทำให้เจอความสุขใจขึ้นได้มากทีเดียว
ความสุข 3 รูปแบบ
“ความสุข” แบบแรก ความสุขที่เกิดจาก การที่เราสมหวัง ได้ตามสิ่งที่เราต้องการ หรือคาดหวังอะไรไว้แล้วได้ ความสุขแบบนี้ ถ้าวันใดเราไม่ได้มาล่ะ เรายอมรับความรู้สึกอีกด้านได้หรือไม่ ความสุขแบบนี้เราไม่ได้ทำให้เกิดได้เองจากตัวเราทุกครั้ง แต่เราฝากความสุขไว้กับคนอื่น สิ่งอื่น เหตุการณ์อื่น ที่เราอาจจะไม่สามารถควบคุมมันได้ทุกครั้งไป
“ความสุข” แบบสอง ความสุขจากความเพียงพอ พอเพียง รู้สึกพอใจในสิ่งที่ตนมี สิ่งที่ตนเป็น เข้าใจว่านี่คือชีวิต ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใด เราจะทำความเข้าใจว่า อ๋อ “ทุกสิ่งทุกอย่างมันก็เป็นของมันเช่นนั้นเอง” วันนี้เค้าไม่รักเราแล้ว เรา ก็บอกกับตัวเองว่า “อ๋อ...ก็เพราะเค้าไปรักคนอื่นแล้วนั่นเอง นั่นมันเรื่องของเขา เรื่องของเราเวลานี้คือมั่นดูแลรักษาใจเราเองดีกว่า” ความสุขจากความเข้าใจ ในสัจธรรมของชีวิตแบบนี้จะมั่นคง และทำให้เราจิตใจเราเข้มแข็งขึ้น
“ความสุข” แบบสาม ความสุขที่เกิดจากการให้ โดยไม่หวังสิ่งตอนแทน ถ้าเมื่อเราให้แบบคาดหวังมันก็จะกลายเป็นความสุขธรรมดาตามแบบแรกนั่นเอง ความสุขจากการให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน เป็นความสุขแบบอิ่มเอมใจ ภาคภูมิใจ ไม่ ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าใด เมื่อคิดขึ้นมาครั้งใด ความปิติสุขภายในใจก็บังเกิดขึ้นได้ทุกครั้งไป อิ่มเอมไปด้วยความสุขใจอย่างบอกไม่ถูก
สิ่งที่เราตามหาที่แท้จริง มันอยู่ไม่ไกล มันซ่อนอยู่ในใจเรานี่เอง ค้นหาให้พบ ควบคุมมันให้ได้ “ความสุข” อยู่ไม่ไกล หาได้ไม่ยากเลย........
มีความลับเกี่ยวกับความรักอีกมากมายหลายอย่าง ที่เรายังต้องค้นหากันต่อไป แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากเกินเข้าใจยิ่งค้นหาก็จะทำให้เรารู้ซึ้งถึงคุณค่าของ มันมากขึ้น
: : ความรักเริ่มจากความคิด
เพราะความคิดเป็นจุดเริ่มต้นของความรักบางทีความรักก็ทำให้เราเปลี่ยนแปลง ความคิดอย่างที่เคยเป็นต้องปรับปรุงในสิ่งที่เราเคยทำ เพียงเพื่อให้เข้ากับใครอีกคน
: : ความรักทำให้เกิดความเคารพ ศรัทธา
คุณไม่สามารถรักใครได้หรอกถ้าคุณไม่รู้สึกเชื่อมั่นเป็นอันดับแรก และคนแรกที่คุณต้องศรัทธาเชื่อมั่น นั่นก็คือตัวคุณเอง
: : ความรักคือการให้
ถ้าคุณต้องการที่จะได้ความรักสิ่งที่คุณต้องทำก็คือ รู้จักให้ด้วยยิ่งให้คุณก็จะยิ่งได้รับ สูตรลับของความสุข และทำให้มิตรภาพยืนยาวที่คุณควรจะจำเอาไว้เสมอก็คือ อย่าถามว่าคนอื่นให้อะไรคุณบ้าง แต่ให้ถามว่าคุณทำอะไรให้คนอื่นบ้างจะดีกว่า
: : ในความรักมีมิตรภาพซ่อนอยู่
อยากได้รักแท้ก็ต้องหาเพื่อนแท้ให้ได้ซะก่อนการจะรักกันได้ไม่ใช่แค่มองตา แต่อยู่ที่ว่าต่างคนต่างมีอะไรที่ตรงกันรึเปล่าหากจะรักใครอย่างจริงใจคุณ ควรจะรักในสิ่งที่เขาเป็น ไม่ใช่แค่ภาพที่คุณเห็นมิตรภาพก็เหมือนกับปุ๋ยที่ช่วยทำให้ความรักเบ่งบาน เติบโตทุกๆ วันนั่นเอง
: : การสัมผัสกันจะช่วยสานต่อความรักให้ดีขึ้น
เคยรู้สึกดีใช่มั้ยเวลาที่มีใครมาโอบใหล่หรือกอดคุณการสัมผัสกันจึงเป็นการ แสดงออกอย่างหนึ่งที่มีพลังช่วยทลายกำแพงแห่งความชิงชังไม่เข้าใจได้อีกด้วย น่าแปลกที่มันสามารถเปลี่ยนแปลงอารมณ์และท่าทีที่แข็งกร้าวให้เบาลงอย่างได้ ผล
: : อยากรักต้องรู้จักปลดปล่อย
ถ้าคุณรักใครจงปล่อยให้เขาเป็นอิสระบ้างคุณเองก็รู้สึกอึดอัดใช่มั้ย ถ้าหากมีใครมาล่ามโซ่คุณ จงเรียนรู้ที่จะให้อภัยและลืมอดีตที่ไม่ดีมาก่อน ปลดปล่อยความกลัวภายในใจให้ความยุติธรรม ลดทิฐิ และเงื่อนไขต่างๆซะบ้าง บอกตัวเองว่า แต่นี้ไปเราจะทิ้งความกลัวทั้งหมดและอดีตจะไม่มีผลอะไรต่อตัวเราอีก นับจากวันนี้ไปเราจะเริ่มต้นชีวิตใหม่ซะที
: : ชีวิตจะเปลี่ยนไป เมื่อเราเรียนรู้ที่จะเปิดใจให้กว้าง และซื่อสัตย์ต่อกัน
คุยกับคนที่คุณรัก อย่ากลัวที่จะพูดคำวิเศษ 3 คำว่า ฉันรักเธอ อย่าปล่อยให้โอกาสผ่านไป คุณควรจะบอกรักก่อนจะจากกันทุกครั้งเสมอ เพราะบางทีคุณอาจจะได้เจอกันครั้งสุดท้ายก็ได้ใครจะไปรู้
: : แก่นแท้ของความรัก คือการไว้ใจกัน
ถ้าคุณไม่เชื่อใจกัน ใครคนนึงก็จะเป็นคนระแวง กังวลและหวาดหวั่น ส่วนอีกคนก็จะรู้สึกอึดอัดใจคุณไม่อาจรักใครจริงๆ ได้ถ้าคุณไม่ไว้ใจเขาอย่างแท้จริง
สุดท้ายคือการเข้าใจ
.
...
......
ไร้รัก ไร้ใจ ไร้เยื้อใยต่อเธอ
นางฟ้าใจดี แต่บางทีก็เป็นมารร้าย